บทที่ 1 ฉันไม่เลือกเธอ

‘ขอให้วันนี้เป็วันดีๆสำหรับฉันด้วยนะ’

“ไปไหนแต่เช้าลูก” ป้าเจ้าของหอทักฉันเมื่อเห็นฉันเดินลงมาในเวลาเช้ากว่าทุกวัน

“วันนี้หนูมีนัดสัมภาษณ์งานน่ะค่ะป้า” ฉันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

“งานที่ใหม่เหรอลูก” ป้าแกถามฉันมา เพราะปกติฉันจะทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านกาแฟอยู่แล้ว

“ใช่ค่ะป้า” วันนี้ฉันมีนัดสัมภาษณ์ที่บริษัทอสังหารายใหญ่ ทั้งเงินเดิน สวัสดิการต่างๆ นี่ดีสุดๆ อ่ะ ถ้าได้นะถือเป็นโชคดีของฉันเลย

“อ๋อ ป้าขอให้โชคดีนะลูก หนูเก่งอยู่แล้ว” ป้าอวยพรฉันด้วยความเอ็นดู

“ขอบคุณนะคะ” ฉันยิ้มตอบแกไปแล้วเดินออกจากหอเพื่อไปที่ทำงานใหม่ทันที ถึงจะเช้าอยู่ก็เถอะเราต้องไปรอเค้าไม่ใช่ให้เค้ามารอเรา

เรามารู้จักกันก่อน ฉันชื่อ รวงข้าว ค่ะ อายุ 22 ปี นิสัยฉันก็ธรรมาดาทั่วไปนี่แหละ แต่ฉันค่อนข้างสู้และไม่ยอมคน เพราะฉันโตมาแบบพึ่งพาตัวเองฉันเลยต้องเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ได้ไง

ตอนนี้ฉันพึ่งเรียนจบมาไม่นานและอยู่ในช่วงหางานดีๆ ทำ ฉันเป็นเด็กกำพร้าโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ว่าเค้าตายจากฉันหรือว่าทิ้งฉันกันแน่ฉันก็ไม่เคยถามแม่ครู แต่ก็ช่างเถอะตอนนี้ฉันขอดำเนินชีวิตของฉันอยู่กับปัจจุบันดีกว่า

“คนเยอะกว่าที่คิดแหะ” ตอนนี้ฉันมานั่งรอการสัมภาษณ์งานอยู่ที่ทำงานแล้ว คนก็เริ่มทยอยมาเรื่อยๆ และที่ฉันเห็นคือคนมาเยอะกว่าที่ฉันคิดไว้อีก มันเพิ่มความกดดันให้ตัวเองไปอีก

“สวัสดีค่ะทุกคน พี่เป็นเลขาของท่านรองประธานนะคะ” ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ก็มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นเลขาของท่านประธานออกมาแนะนำตัว

ว่าแต่บริษัทนี้ต้องให้เลขารองประธานออกมาต้อนรับเลยเหรอ

“สวีสดีค่ะ” ฉันและทุกคนกล่าวทักทายกลับไปพร้อมๆ กัน

“ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพี่ต้องออกมาต้อนรับทุกคน วันนี้ไม่รู้เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายนะคะที่ท่านรองว่างพอดี ท่านจะเป็นคนสัมภาษณ์งานเองค่ะ” คุณเลขาบอก

ว่าแต่ผู้บริหารสัมภาษณ์เองแบบนี้จะไม่เกร็งแย่เหรอ

“.....” เสียงซุบซิบของคนที่มาสัมภาษณ์ดังขึ้นไม่ดังมาก

“ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ประธานของเราใจดี... งั้นขึ้นไปด้านบนกันดีกว่าค่ะ ท่านมาแล้ว” คุณเลขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม และให้เราย้ายไปรออีกชั้นที่ท่านรองประธานรออยู่

“.....” ฉันได้แต่เรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ดูจากบุคลิกของเลขาแล้วท่านรองประธานน่าจะใจดีนะ เพราะถ้าดุคุณเลขาคงไม่ดูเป็นกันเองและยิ้มแย้มแบบนี้หรอก (เค้าเรียกปลอบใจตัวเอง)

“เห้ยแก! ท่านรองประธานหล่อมากอ่ะ ยังหนุ่มอยู่เลย” เสียงผู้หญิงที่เข้าไปสัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้พูดขึ้นกับเพื่อนตัวเองที่มาด้วยกัน ฉันซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็ได้ยินไปด้วย

“จริงไหม ฉันอยากจะเห็นแล้วอ่ะ” เพื่อนเธออีกคนพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“เดี๋ยวแกก็ได้เห็นอ่ะ ถ้าฉันได้ทำงานที่นี่นะ ฉันสัญญาเลยจะเป็นเมียท่านรองให้ได้” แล้วเค้าจะเอาเธอไหม นี่สรุปพวกเธอจะมาหางานทำกันจริงๆ ใช่ไหม

ไม่ว่าจะใครที่ออกมาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าท่านรองประธานหล่อย่างนั้นหล่ออย่างนี้ จนเวลาล่วงเลยมาที่ฉันคนสุดท้าย ไม่รู้ว่าเค้าใช้เกณฑ์อะไรเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ก็ไม่รู้ฉันถึงได้ลำดับสุดท้ายแบบนี้

“นางสาวรวงข้าง บุญธำรงค์ เชิญค่ะ” คุณเลขาเรียกชื่อฉัน เฮ้อถึงคิวสักทีนะ

“ค่ะ” ฉันตอบรับก่อนจะเดินเพื่อเข้าห้องเชือดหรือเปล่านะ

“เชิญค่ะ” คุณเลขาบอกพร้อมเปิดประตูให้ เมื่อฉันผ่านขอบประตูเข้าไปได้ เสียงประตูก็ปิดลงทันที

“สวัสดีค่ะ” เมื่อเดินไปถึงโต๊ะทำงานที่มีท่านรองประธานนั่งอยู่ด้านหลัง ฉันก็กล่าวทักทายตามมารยาททันที

“นั่งสิ” ท่านรองประธานพูดออกมาโดยไม่ได้เงยหน้าจากแฟ้มขึ้นมามอง

“ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตามคำสั่ง และก็เกิดอาการตะลึงทันทีที่ชายผู้ขึ้นชื่อว่าท่านรองประธานเงยหน้าขึ้นมา

“พึ่งจบใหม่เหรอ” ท่านรองถามขึ้น

ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงที่ออกจากห้องนี้ถึงได้พากันพูดไม่หยุดปากว่าท่านรองประธานหล่อ ฉันขอโทษแล้วกันที่ว่าพวกเธอ(ในใจ)

ชายหนุ่มที่ดูยังไงอายุก็ยังไม่ถึงเลขสามด้วยซ้ำ ตาคมดุ จมูกโด่งเป็นสัน ปากกระจับหน้าจูบ นี่ฟ้าจะมอบความเพอร์เฟคให้กับเค้าคนเดียวเลยหรือไงกัน

“ค่ะ” ฉันตอบกลับไปกับสิ่งที่เค้าถาม ถึงจะตะลึงในความหล่อแต่อย่าลืมว่านี่เธอมาหางานยัยข้าว

“แต่ในรายละเอียดบอกไว้แล้วนี่ ว่าเรารับแต่คนมีประสบการณ์” ท่านรองประธานพูดออกมา

“ดิฉันทราบค่ะ แต่ดิฉันมั่นใจว่าสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ค่ะ” ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ไหมล่ะว่าฉันก็ทำได้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีประสบการณ์แต่ก็ใช่ว่าฉันจะเรียนรู้งานไม่ได้นี่

“ทุกคนเค้าก็ตอบกันแบบนี้ แต่บริษัทฉันเป็นบริษัทใหญ่ คนที่เค้ามีประสบการณ์เค้าย่อมทำงานได้ดีกว่าอยู่แล้ว” ท่านรองประธานบอกเหตุผลของตัวเองมา ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ผิดมาก

“คนที่มีประสบการณ์ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้ดีกว่าหรือทำงานโดยไม่มีข้อผิดพลาดได้นี่คะ...”

“และคนที่ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานให้ดีไม่ได้เหมือนกันค่ะ” ฉันอธิบายให้ท่านรองประธานฟังตามความคิด

“ความคิดของเธอมันก็ถูก แต่ถ้าให้มองตามความเป็นจริง ถ้ามีคนที่มีประสบการณ์กับคนไม่มีประสบการณ์ผมก็ต้องเลือกคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้วไหม...”

“ที่นี่มันคือการทำงานจริงๆ ไม่ใช่สนามให้เด็กใหม่มาเล่นเกมส์ทดลองความสามารถตัวเอง” ความคิดแคบแบบนี้เป็นผู้บริหารได้ยังไงกัน

“ค่ะข้อนี้ฉันทราบ แต่ถ้าทุกบริษัทมานั่งคัดแค่คนที่มีประสบการณ์ แล้วคนที่พึ่งเรียนจบแบบดิฉันจะมีงานทำและมีประสบการณ์ได้ยังไง...”

“ดิฉันคิดว่าค่านิยมที่มีต่อๆ กันว่าคนที่มีประสบการณ์จะทำงานได้ดีกว่ามันไม่เสมอไปหรอกนะคะ” ทุกอย่างมันก็ต้องเรียนรู้กันทั้งนั้นแหละ ต่อให้คนที่มีประสบการณ์แล้วแต่มาทำงานที่ใหม่ยังไงเค้าก็ต้องเรียนรู้งานก่อนไหม

“ใช่ทุกคนก็มีข้อผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่คงไม่เกิดขึ้นกับผม ที่จะเลือกคนผิด” รองประธานพูดออกมาเหมือนเริ่มจะไม่พอใจฉัน และสิ่งที่เค้าพูดมันทำให้ฉันทำใจเผื่อไว้แล้ว

“.....” ฉันมองหน้ารองประธานอย่างไม่ยอมแพ้กับที่เค้ามองฉันอยู่ตอนนี้

“ฉันไม่เลือกเธอ นางสาวรวงข้าว บุญธำรงค์” คำพูดที่แสนราบเรียบกับสีหน้าที่แสนนิ่งออกมาจากปากของท่านรองประธานบริษัท

บทถัดไป