
บทนำ
เรื่องราวของ จีน่า 'จีน่า' จิณารี พชรจินดานนท์ อายุ 25 ปี ผู้หญิงที่เคยเชื่อในความรัก แต่กลับเจอแต่ผู้ชายเฮงซวย ครั้งแล้วครั้งเล่า เปิดใจกี่ครั้งก็เจ็บทุกครั้ง ทำให้เธอขยาดความรัก จนไม่อยากเปิดใจให้ใครอีก เพราะคิดว่าชาตินี้คงไม่มีโชคเรื่องความรัก
ทว่าเธอได้มาเจอกับใครคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนไลฟ์สไตล์ของเขา และเธอจะแตกต่างกันสุดขั้ว
เขาค่อยๆ ก้าวเข้ามาในชีวิตเธอแบบไม่รู้ตัว ทว่าเธอกับพูดกับเขาว่า "อยากเมื่อไรก็มาหาฉัน" เป็นสถานะที่ต่างฝ่ายต่างไม่ผูกมัดกัน
"คุณเชื่อผมไหมว่าต่อไปนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปทำตัวเหลวไหลอีก ผมไม่อนุญาตให้คุณไปยุ่งกับคนอื่นแน่ ถ้าอยากโดนลงโทษแบบเมื่อคืนคุณก็ลองดูได้"
'ภู' ภูริช ไกรอัครวรกุล อายุ 30 ปี
ความสุขุม ใจเย็น อบอุ่นของเขา มันจะทำให้เธอเปิดใจกับรักครั้งใหม่ได้ไหม แล้วมันจะต้องเจ็บอีกหรือเปล่า
มาเอาใจช่วยจีน่าไปด้วยกันนะคะ
#ผู้ชายคนที่เปิดเรื่องคือแฟนเก่านะจ๊ะ เรื่องนี้ ผั...ใหม่ใกล้ฉันค่ะ ไม่กินของเก่าจ่ะ!!!
เรื่องนี้นางเอกสายเปรี้ยวฟาด (ขี้เมา) ส่วนพระเอกอบอุ่นธงเขียวนะจ๊ะ
(ไม่ดราม่าน๊า หน่วงนิดหน่อย นางเองแสบมากค่า พระเอกชอบแกล้งน้อง)
บท 1
เมืองใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล แม้จะเป็นคืนที่ท้องฟ้ามืดที่สุด ไม่มีแสงจากพระจันทร์และดวงดาว แต่ก็ยังมีแสงสว่างจากป้ายโฆษณา ตึกสูง และไฟถนนที่ยาวสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปนอกกระจกบานใหญ่ของคอนโดหรูขนาดไม่ต่ำกว่าร้อยตารางเมตร ลมหายใจแผ่วเบาผ่อนออกมาคล้ายกำลังแอบระบายความรู้สึกที่อึดอัดในใจ
เธอคือ ‘จีน่า’ จิณารี พชรจินดานนท์ อายุ 25 ปี หญิงสาวหน้าตาสะสวย สูงราว 170 ผิวขาว ขาเรียวยาว หุ่นเพรียวส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน เป็นต้นแบบของผู้หญิงในอุดมคติของผู้ชายหลายคน ถึงแม้เธอจะมีเรื่องที่คิดอยู่ในหัว หนักอยู่ในใจ ก็ไม่อยากแสดงออกมาให้เพื่อนสนิท ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะอาการแย่กว่าเธอหลายเท่าให้ได้รับรู้ จึงแสร้งทำเป็นเหมือนปกติ เพราะไม่อยากให้เพื่อนสนิทอย่าง ‘เกวลิน’ ต้องเป็นห่วง
“ยัยเกล...เสร็จหรือยัง!!” จีน่าส่งเสียงถามเพื่อนสนิทที่โอ้เอ้ แต่งตัวไม่ยอมเสร็จเสียที
“ฉันไม่ได้อยากไปสักหน่อย จะเร่งอะไรนักหนา” เกวลินเอียงศีรษะใส่ต่างหู เดินมาหยุดอยู่ที่กระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัว ก่อนจะปรายตาไปค้อนจีน่าที่เร่งเธอแล้วเร่งเธออีก
พอได้ยินที่เพื่อนสนิทบ่น จีน่าก็อดจิ๊ปากไม่ได้ “อย่าบ่นไปหน่อยเลยน่า...ฉันจะพาแกไปเปิดหูเปิดตานะ มัวแต่นั่งกอดเข่าเฝ้าโทรศัพท์อยู่แบบนี้จะเฉาตายไปซะก่อน อีกอย่างแกรับปากฉันไว้แล้วว่าจะไปเป็นเพื่อนฉันนะ” จีน่าลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเดินมาหาเพื่อนสนิท ก่อนจะยกมือเล็กบีบคางเพื่อนสาวเชิงหยอกเย้า “ใครผิดคำพูดเป็นหมา ไม่รู้เหรอจ๊ะ?
“เสร็จแล้วนี่ไง”
จีน่ามองเพื่อนสนิทตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พร้อมกับเดินกอดอกหมุนรอบตัวเกวลิน ดวงตาฉายแววชื่นชม “เพื่อนฉันสวยเหมือนฉันสินะ”
เกวลินแสยะยิ้มให้กับคำยอของจีน่า สายตาของเธอก็มองเพื่อนสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเช่นกัน วันนี้จีน่าสวยและเซ็กซี่เป็นพิเศษ ในชุดเกาะอกสีเลือดนก ที่ดูเหมือนจะเป็นสีประจำตัวของจีน่าไปเสียแล้ว “ใครจะไปสู้แม่เสือสาวพราวเสน่ห์อย่างแกได้” เกวลินอมยิ้มเอ่ยแซว
พอได้ยินคำว่า ‘เสือสาวพราวเสน่ห์’ ของเพื่อนสนิท จีน่าก็หลุดหัวเราะออกมา
รถยนต์หรูสไตล์สปอร์ตขับออกจากคอนโด มุ่งหน้าไปตามถนนสายหลัก ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว ทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าไปที่สถานบันเทิงใจกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิดพี่ชายของจีน่า
“เมื่อตอนบ่ายฉันเห็นคนชื่อปืนส่งข้อความเข้ามา แกกลับไปคบกันเหรอ” เกวลินหันไปถามจีน่าที่กำลังขับรถอยู่
จีน่าได้ยินที่เพื่อนสนิทถามก็เผลอเหยียบเบรกจนรถกระตุก “แกถามอะไรเนี่ย!! ขับรถอยู่”
เกวลินเห็นท่าทีของจีน่าก็อดยกยิ้มไม่ได้ “ไม่ต้องตอบฉันก็รู้ รักเขานี่เนอะ ตัดขาดง่ายก็คงไม่ได้เรียกว่ารัก” เกวลินยกแขนกอดหน้าอกหลวมๆ เอ่ยพูดลอย ๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองบรรยากาศเมืองหลวงในยามค่ำคืน
“แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้เปิดใจให้ใครมานานมากแล้ว ฉันอยากลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง ฉันยังเชื่อว่าความรักของฉันจะทำให้เขาหยุดได้” จีน่าเอ่ยออกมาขณะที่ยังคงตั้งใจขับรถ
“ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอด้วยตัวเอง ก็คงไม่เข้าใจความรู้สึก เรื่องฉัน ฉันยังเอาไม่รอดเลย แกมีความสุขก็พอ”
จีน่าหันมายิ้มให้เพื่อนสนิท “อืม” เธอเพียงตอบอืมในลำคอเท่านั้น ก่อนจะหันไปขับรถต่อ
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์คันหรู ก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถใต้ดินผับ Z ซึ่งเป็นผับพี่ชายของจีน่า
“ไปกันเถอะ”
จีน่าจูงมือของเกวลินเดินเข้ามาในห้องวีไอพีขนาดใหญ่ ที่จัดเตรียมไว้สำหรับปาร์ตี้วันเกิด มีลูกโป่งตัวอักษรประดับไว้หน้าเวที แสงไฟสาดส่องจนคนที่เข้ามาใหม่ตาลาย ลำโพงที่ดังกระหึ่มชวนให้หัวใจเต้นแรง ทว่าแม่เสือสาวที่ออกปาร์ตี้แทบทุกคืนกับชินเสียแล้ว ต่างจากเพื่อนสนิทอย่างเกวลินที่เอามืออีกข้างกุมที่หน้าอกมาตลอดทาง
“ทำไมวันนี้คนเยอะจัง?” เกวลินโน้มไปกระซิบจีน่า
“ก็พี่ฉันทำธุรกิจนี้ รู้จักคนไม่น้อยเลย ฉันก็ไม่คิดว่าวันนี้คนจะเยอะขนาดนี้”
จีน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ เหมือนกำลังจะมองหาใครบางคน
“คนชื่อปืนนั่นก็มาด้วยเหรอ” เกวลินกระซิบถาม
“เขาว่าจะมานะ แต่มองไปก็ยังไม่เห็นเหมือนกัน”
จีน่ากวาดสายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ก่อนจะโน้มมากระซิบเกวลิน “เราไปนั่งโซนที่พี่ฉันเตรียมไว้ให้ก่อนเถอะ เดี๋ยวตานั่นมาก็โทรมาหาฉันเองแหละ”
สาวสวยทั้งสองคนเดินไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่โซนปีกขวา ไม่นานพนักงานก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ เกวลินยกมือขึ้นหยิบแก้วค็อกเทลเพราะคิดว่าดื่มนิดหน่อยพอเป็นพิธีก็พอแล้ว
มือยังไม่ทันถึงแก้วค็อกเทลก็โดนจีน่าตี “เรียนก็จบแล้ว แฟนก็มีแล้ว อย่าทำตัวเหมือนเด็กประถมให้ฉันหงุดหงิด” พูดจบจีน่าก็เอื้อมมือไปหยิบแก้ววิสกี้ยืนให้เพื่อนสนิท และหยิบของตัวเองมาหนึ่งแก้ว
เสียงเบสจากลำโพงตัวใหญ่ดังมาเป็นระลอก หญิงสาวยกแก้วจิบพลางโยกศีรษะตามจังหวะอย่างผ่อนคลาย ก่อนที่แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์จะสว่างขึ้น สายตาหลุบลงไปมองที่หน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งดูเหมือนจะมีคงส่งข้อความตอบกลับมา เธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ตอบก่อนจะกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ไปอีกครั้ง
“ตานั่นกำลังจะถึงแล้ว เห็นว่าอีกสิบนาที แกอึดอัดไหมเกล ถ้าปืนจะมานั่งกับเรา” จีน่าโน้มไปกระซิบเพื่อนสนิท
“มาสิ...ฉันไม่เป็นไร แฟนแกนิ่ ฉันยังไงก็ได้ แค่ไม่ทำให้เพื่อนของฉันเสียใจอีกก็พอ” เกวลินยิ้มเอ่ย
“อืม”
นั่งอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองคนเหมือนจะได้ยินเสียงของกลุ่มผู้หญิง พูดถึงเรื่องผู้ชายคนหนึ่ง ที่ฟังดูเหมือนจะชื่อ ‘ปืน’ กลุ่มนั้นคุยกันสนุกสนานจนเสียงเริ่มดังมากขึ้น ทำให้พวกเธอได้ยินอย่างชัดเจน
“จริงเหรอ พี่ปืนเขายังมาหาแกอยู่เหรอ?”
“อืม...ทำไงได้ล่ะ ฉันดันทำให้เขาลืมไม่ลง”
“น่าหมั่นไส้ชะมัด แกกินของคนอื่นอยู่ยังจะพูดอวดอีก”
“ของคนอื่นแล้วไง ถ้ายัยนั่นแซ่บจริง เขาจะมากินฉันอยู่ทำไม จริงไหม?”
“พี่ปืนเขาก็หล่อจริง ๆ นั่นแหละ เป็นฉัน ฉันก็ยอม แล้วยัยนั่นรู้ไหมว่าแกแอบคั่วอยู่กับผัวเขาอ่ะ”
“ไม่รู้สิ...อยากจะโง่ ก็ปล่อยให้โง่ไป ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันดังที่ไหน ของอร่อยแบบนี้แบ่งกันชิมบ้างจะเป็นอะไรไป”
จีน่ากำแก้วในมือแน่น เธอได้ยินคำสนทนาของกลุ่มผู้หญิงหน้าไม่อายพวกนั้นชัดเจนทุกคำ กัดฟันหลับตาพยายามระงับอารมณ์อยากจะฟังเรื่องน่าสะอิดสะเอียนที่ออกจากปากของพวกหน้าไม่อายอีกสักหน่อย
เกวลินกระชับแขนของเพื่อนสนิทไว้แน่น “ใจเย็นไว้”
“อืม”
ดูเหมือนผู้หญิงพวกนั้นจะพูดไม่จบไม่สิ้น เกวลินยกแก้วเหล้าในมือกระดกรวดเดียวจนหมด ก่อนจะกระแทกแก้วลงโต๊ะรับรองเสียงดังจนคนที่นั่งใกล้เคียงหันมามองด้วยความสนใจ แล้วลุกขึ้นเดินก้าวอย่างมั่นใจไปทางด้านโต๊ะที่อยู่เยื้องจากพวกเธอไปไม่กี่โต๊ะ
เพี๊ยะ!!! มือเล็กของเกวลินฟาดลงไปที่หน้าของผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้นเต็มแรงจนหน้าหันตามแรงตบตัวเซไปอีกทาง
“ตบมือข้างเดียวดังพอไหม?”
“อีบ้า!!! แกกล้าดียังไง!!” พออีกฝ่ายตั้งหลักได้ก็แผดเสียงออกมาด้วยความโกรธ โดยที่ข้างๆ มีเพื่อนอยู่ด้วยอีกสามคนตั้งท่ารอ
“ทำไม!?” เกวลินกวาดตามองผู้หญิงพวกนั้นด้วยสายตาแสนรังเกียจ “อยากตบคืนก็มา...เพื่อนฉัน!!! ใครหน้าไหนก็อย่ามาแตะ พวกฉันไม่เคยทำร้ายใครก่อน พวกที่ชอบยุ่งกับผู้ชายของคนอื่น แล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่อายก็มาตบคืน!!!”
“เกลเรื่องของฉัน ฉันจัดการเอง” จีน่าเดินมาดึงเกวลินให้ถอยหลังไป ก่อนจะเดินไปประจันหน้ากับผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้นที่บอกว่าเป็นคู่ขาของแฟนหนุ่มของเธออย่างภาคภูมิใจ
“ใครกล้ายุ่งอย่าคิดว่าฉันไม่เตือน!!!” จีน่ายกมือชี้กราดไปที่เพื่อนของผู้หญิงหน้าไม่อายทุกคน ก่อนเธอจะยกมือเชิดคางของผู้หญิงคนนั้นขึ้นเอ่ยถามเสียงเย็น “เมื่อกี้เธอว่าใครโง่?”
“พะ..พี่จะทำอะไร เรารู้จักกันหรือไง” คู่ขาปืนเอ่ยเสียงตะกุกตะกักตัวสั่น เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของจีน่าจากปากคนอื่นมาบ้าง
จีน่าบีบคางของอีกฝ่ายแรงขึ้น แค่นยิ้มหยัน “ใช่!!! เราไม่รู้จักกัน แล้วเธอกล้าดียังไงมายุ่งกับผู้ชายของฉัน”
“พะ..พี่ปืนเขาบอกว่าเขา เลิกกับพี่แล้วนิ่”
“เฟย์!!!” เสียงคนที่มาใหม่ดังขึ้นจนคนที่อยู่ในเหตุการณ์หันมองเป็นตาเดียว
จีน่าไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร เธอแสยะยิ้มเอ่ย “ตัวต้นเรื่องมาแล้วสินะ” ก่อนจะคลายมือที่จับคางของอีกฝ่ายออก แล้วหันกลับมามองผู้ชายที่เธอไม่อยากเห็นหน้าเขามากที่สุดตอนนี้
เธอส่งสายตาเยือกเย็นมองไปที่ชายหนุ่ม “มีอะไรจะพูดไหม?”
ปืนเม้มปากนิ่งมองมาที่จีน่าก่อนจะก้มหน้าลงไม่ได้เอ่ยอะไร
จีน่าเดินมาหยุดตรงหน้าของปืน เค้นเสียงถาม “คั่วกันมานานแค่ไหนแล้ว?”
ปืนไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาตอบ เขายังคงก้มหน้านิ่งอยู่แบบนั้น
ยิ่งเขาทำท่าทีแบบนี้ จีน่าก็ยิ่งโกรธ “ถึงขนาดลืมไม่ลง ก็คงต้องเลือกมาแล้วใช่ไหม?” จีน่ากดเสียงต่ำเอ่ยถาม
ปืนรีบเงยหน้าขึ้นมาจับมือของจีน่า ส่ายหัวอย่างกระตือรือร้น “ไม่...ก็แค่นึกสนุก เรื่องมัน...”
เพี๊ยะ!!! ไม่รอให้ปืนได้แก้ตัว มือเล็กของจีน่าก็ฟาดลงบนหน้าของอีกฝ่ายเต็มแรง
“เหี้ย...มันก็คือเหี้ย!!! เลี้ยงมันดีแค่ไหน มันก็ไม่เชื่อง”
พูดจบก็หันกลับมาหาผู้หญิงหน้าไม่อายคนนั้น “เหี้ยตัวนี้ ถ้าเธออยากรับไปเลี้ยงต่อ ก็เอาไปเถอะ...ฉัน ยก ให้!!!”
ปืนได้ยินที่จีน่าพูดกับผู้หญิงอีกคน ก็ก้าวเข้ามาหาจีน่า พยายามจะมาอธิบาย มือหนายังไม่ทันถึงตัวของหญิงสาว เธอก็ชี้หน้าเขาอีกครั้ง “อย่าเอามือโสโครกมาแตะตัวฉัน จะอ้วก!!”
พูดจบจีน่าก็หันหลังเดินมาคว้ามือของเพื่อนสนิท “เราไปกันเถอะ” เดินออกไปจากตรงนั้นทันที พอเดินมาทางด้านโซนของพี่ชาย ก็หันไปเอ่ย “ที่นี่ฝากพี่เคลียร์ด้วยนะ ฉันขอโทษที่มาสร้างเรื่อง”
พี่ชายของจีน่าเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นไม่ได้เอ่ยถามอะไร รู้ว่าน้องสาวเพียงคนเดียวของเขากำลังโกรธ ถ้ารั้งไว้คงไม่จบแน่จึงปล่อยให้เธอไปแต่โดยดี
ตั้งแต่ต้นจนจบ จีน่ายังไม่มีน้ำตาให้เห็นเลยแม้แต่หยดเดียว ทั้งคู่เดินมารอเรียกแท็กซี่อยู่ที่ริมถนน เนื่องจากดื่มกันมาทั้งคู่ จึงไม่อยากขับรถ
“แกโอเคหรือเปล่า ฉันขอโทษนะ” เกวลินกระชับมือเพื่อนเอ่ยขอโทษ ถ้าวันนี้เธอไม่เดินไปเปิดศึกก่อน อาจจะไม่เกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้ก็ได้
จีน่าถอนหายใจออกมา ขณะที่สายตายังคงทอดมองไปที่ถนนไม่ได้หันมาหาเพื่อนสนิท “แกขอโทษทำไม ถ้าแกไม่เดินไป ฉันก็ต้องเดินไปอยู่ดี”
เกวลินมองท่าทีเสแสร้งพยายามเข้มแข็งของเพื่อนสนิทอยู่เงียบๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
เรียกรถแท็กซี่ได้ทั้งคู่ก็บอกพิกัดคนขับรถ ต่างคนต่างนั่งหันกันไปคนละทาง ทั้งคู่ต่างก็มีเรื่องที่ต้องคิดจึงให้เวลากันได้สงบอารมณ์ให้ใจเย็นลงก่อน
เกวลินนึกสงสารจีน่าที่ต้องมาเจอเรื่องอะไรพวกนี้ เธอทอดสายตามองเพื่อนสนิทนิ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นไปจับแขนจีน่าเอ่ย “เหลือกันสองคนแล้วนะ ไม่ต้องเข้มแข็งก็ได้ ฉันก็อยากร้องไห้มากเหมือนกัน”
ดวงตาของหญิงสาวคลอหน่วยไปด้วยน้ำตาขณะหันมามองเพื่อนสนิท ที่จริงเธอก็แสร้งทำเป็นเข้มแข็งไม่ไหวอีกแล้ว เธอยกมือกุมมือของเกวลินไว้กระชับแน่น “เกล...ฉันให้อภัยเขามาแล้วสามครั้ง” เธอก้มหน้าหลับตาสะอื้นไห้ “ฉันโง่มากใช่ไหม ที่พาตัวเองมาเจอเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ใจฉันเจ็บมากเลย ชีวิตฉันเจอแต่ผู้ชายเฮงซวย เปิดใจกี่ครั้งก็เจ็บทุกครั้ง ชีวิตฉันมันจะเจอรักที่ดีบ้างไม่ได้เลยเหรอ”
“คนที่ให้อภัยไม่ใช่คนโง่หรอกนะ คนโง่คือคนที่ไม่รักษาโอกาส จีน่า...แกจะโทษตัวเองไม่ได้”
เหมือนทั้งคู่จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เพียงแค่โถมตัวกระชับกอดกันร้องไห้ ต่างคนต่างมีเรื่องที่ทำให้หัวใจเจ็บปวด คบกันมานานขนาดนี้จึงไม่จำเป็นต้องพูดอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้มากความ
จนถึงตอนนี้จีน่าก็ยังน้ำตาซึมอยู่ตลอด ปืนโทรศัพท์เข้ามาไม่ต่ำกว่ายี่สิบสาย และส่งข้อความมามากกว่าห้าสิบข้อความตั้งแต่เกิดเรื่อง เธอนั่งกอดเข่ามองจอโทรศัพท์ที่สว่างไม่หยุดอยู่แบบนั้น ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
“ไอ้คนสารเลว ไปตายซะ!!!” เธอแผดเสียงด่าคนในสาย ก่อนจะกดปิดเครื่องโทรศัพท์แล้วขว้างทิ้งไปให้ไกลตัว
เกวลินเห็นจีน่ายกมือปิดหน้าสะอื้นไห้ ก็ปวดใจไม่น้อย อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดเจอกับตัวบ้างเธอจะใจเด็ดอย่างจีน่าได้ไหมนะ ถึงจะรู้สึกแย่อยู่ไม่น้อย ก็ต้องเข้มแข็งกว่าเพื่อนสนิทของเธอสักหน่อย เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอกำลังเสียใจ ถ้าอ่อนแอทั้งสองคน สถานการณ์คงจะแย่ลงไม่น้อยเลย
“ไม่ร้องแล้ว ดื่มไหมฉันดื่มเป็นเพื่อนแกเอง” เกวลินเดินมายื่นกระป๋องเบียร์ที่เพิ่งจะหยิบออกจากตู้เย็นให้จีน่า
จีน่าเงยหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมามองเพื่อนสนิท ก่อนจะยกมือรับกระป๋องเบียร์มาเปิดกระดกทั้งน้ำตารวดเดียวจนหมด “ความรักเฮงซวย” เธอสบถออกมา พร้อมกับใช้มือเล็กบีบกระป๋องเบียร์จนผิดรูป
ทั้งคู่ดื่มจนเบียร์หมดตู้เย็น ไม่วายจะไปต่อเหล้าที่อยู่บนชั้นวางอีกหลายขวด จนขวดเหล้า และกระป๋องเบียร์ เกลื่อนเต็มห้องโถง ทั้งสองคนเมาจนไม่มีสติ เดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็หัวเราะ ระบายความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมา ก่อนจะกอดกันหลับกองกับพื้นไปอย่างหมดสภาพ
(แอบมากระซิบบอกผู้ชายที่เปิดเรื่องไม่ใช่พระเอกนะคะ ปืนคือแฟนเก่าของนางเอกเท่านั้นจ้า พระเอกคลั่งรักสุด เรื่องนี้ไม่มาม่าแน่นอน อ่านต่อน๊า...เริ่มเหมือนจะดราม่า แต่ไม่มาม่านะคะ 555 หวานเจี๊ยบ....)
บทล่าสุด
#58 บทที่ 58 คือเธอ...END (2)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#57 บทที่ 57 คือเธอ...END (1)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#56 บทที่ 56 มีเธอในชีวิตมันดีจริง ๆ (2)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#55 บทที่ 55 มีเธอในชีวิตมันดีจริง ๆ (1)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#54 บทที่ 54 ไม่เผื่อใจ...
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#53 บทที่ 53 คนนี้แหละแม่ของลูก
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#52 บทที่ 52 คิดถึงจนทนไม่ไหว (2)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#51 บทที่ 51 คิดถึงจนทนไม่ไหว (1)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#50 บทที่ 50 ทั้งคืนคุณไหวไหม? (2)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025#49 บทที่ 49 ทั้งคืนคุณไหวไหม? (1)
อัปเดตล่าสุด: 10/2/2025
คุณอาจชอบ 😍
หลังหย่า ฉันมีชีวิตที่รุ่งโรจน์
เป็นนิยายจีนแนวย้อนยุค มีองค์ประกอบของการแต่งงาน การหย่าร้าง และสงคราม มีการใช้ภาษาที่เป็นทางการตามยุคสมัย มีการอ้างถึงกิจกรรมโบราณของจีน และมีความขัดแย้งระหว่างตัวละคร
คำแปล
แต่งงานมาสามปี เย่หมิงลี่ไม่เคยแตะต้องนาง จนกระทั่งวันที่เขาเมาสุรา นางจึงได้รู้ว่าตนเป็นเพียงตัวแทนของใครบางคน
นางเอ่ย "ท่านอ๋อง ขอหย่าขาดกันเถิดเจ้าค่ะ"
เขาตอบ "เจ้าอย่าได้เสียใจภายหลัง"
เขาคิดว่านางจะต้องเสียใจที่จากไป แต่ใครเลยจะรู้ว่านางกลับใช้เวลาไปกับการเล่นโยนลูกธนู เล่นซ่อนตะขอ เล่นทายของในถ้วย เล่นชนไก่ ขี่ม้าตีลูกบอล จนถึงเลี้ยงจิ้งหรีด แต่ไม่เคยร่ำไห้อยู่ในห้องนางสักครั้ง
ในที่สุด เมื่อนางนำทัพออกรบ เขาก็รีบควบม้าตามไปยังสนามรบ แล้วดักรอนางที่กระโจม "ซางกวนซิน อย่าออกรบแทนบิดาเลย ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าเอง"
ภายใต้แสงเทียน หญิงสาวยิ้มอย่างเย้ยหยัน "ท่านอ๋องวางใจได้ วันที่หม่อมฉันควบม้าไปยังทะเลทรายอันกว้างใหญ่ หม่อมฉันจะเก็บร่างขององค์หญิงไว้ครบถ้วนเป็นศพเดียว"
ชายหนุ่มโกรธจัดด้วยความอับอาย ท่ามกลางแสงดาบเงาคม มีคมกระบี่พุ่งมาแยกชายผู้นั้นออก ซ่งเจว๋ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ท่านอ๋องโปรดสำรวมตน อาซินเป็นภรรยาของข้า"
คู่มนุษย์ของราชาหมาป่า
"ฉันรอเธอมานานเก้าปี นั่นเกือบจะเป็นทศวรรษที่ฉันรู้สึกว่างเปล่าภายในตัวเอง ส่วนหนึ่งของฉันเริ่มสงสัยว่าเธอไม่มีตัวตนหรือเธออาจจะตายไปแล้ว และแล้วฉันก็พบเธอ อยู่ในบ้านของฉันเอง"
เขาใช้มือข้างหนึ่งลูบแก้มของฉัน ทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั่ว
"ฉันใช้เวลามากพอแล้วโดยไม่มีเธอ และฉันจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากเราจากกัน ไม่ใช่หมาป่าตัวอื่น ไม่ใช่พ่อขี้เมาของฉันที่แทบจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ - และไม่ใช่แม้แต่เธอเอง"
คลาร์ก เบลเลอวิว ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเป็นมนุษย์คนเดียวในฝูงหมาป่า - จริงๆ เลยนะ เมื่อสิบแปดปีก่อน คลาร์กเกิดจากความสัมพันธ์ชั่วคราวระหว่างหนึ่งในอัลฟ่าที่ทรงพลังที่สุดในโลกกับผู้หญิงมนุษย์คนหนึ่ง แม้จะอาศัยอยู่กับพ่อและพี่น้องลูกครึ่งหมาป่าของเธอ คลาร์กก็ไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของโลกหมาป่าเลย แต่พอคลาร์กวางแผนจะทิ้งโลกหมาป่าไปตลอดกาล ชีวิตของเธอก็พลิกผันเมื่อพบคู่ชีวิตของเธอ: กริฟฟิน บาร์โดต์ อัลฟ่าคิงคนต่อไป กริฟฟินรอคอยมาหลายปีเพื่อพบคู่ชีวิตของเขา และเขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ไม่สำคัญว่าคลาร์กจะพยายามหนีจากชะตากรรมของเธอหรือคู่ชีวิตของเธอไปไกลแค่ไหน - กริฟฟินตั้งใจจะรักษาเธอไว้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรหรือใครจะขวางทางเขาก็ตาม
หัวใจแปรผัน
เธอตัดสินใจหย่าร้าง แต่อเล็กซ์รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนดีกับเธอ ในขณะนั้น เซบขอเธอแต่งงาน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรล้ำค่ามาให้และพูดว่า "แต่งงานกับฉันเถอะ ได้โปรด"
ด้วยความที่ลุงของอดีตสามีของเธอไล่ตามเธออย่างจริงจัง ชารอนจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจ เธอจะตัดสินใจอย่างไร?
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
ก้าวสู่ความรัก: หัวหน้าหวานใจรักแรก
สิ่งที่หยุนเสี่ยงอยากทำมากที่สุดเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีต คือการห้ามตัวเองในวัย 17 ไม่ให้ตกหลุมรักเซี่ยจวินเฉินวัย 18 ปี
แต่เมื่อวิญญาณวัย 26 ปีของเธอได้เข้าสิงร่างของเด็กสาววัย 17 อีกคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หยุนเสี่ยงคาดไว้เลย
หม่อซิงเจ๋อ บอสในอนาคตของเธอ ดันมาอาศัยอยู่ในบ้านที่เธออยู่ตอนนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชีวิตการอยู่ร่วมชายคาที่วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น
หนึ่งปีต่อมา
อุบัติเหตุรถชนที่ไม่คาดคิด พาหยุนเสี่ยงกลับไปยังวัย 26 ปีของเธออีกครั้ง
เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันที่สวยงาม พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม
แต่ตั้งแต่เธอปรากฏตัวต่อหน้าหม่อซิงเจ๋ออีกครั้ง
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สำหรับเธอ มันเป็นเพียงเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับหม่อซิงเจ๋อ เธอคือคนที่เขาหมกมุ่นมาตลอดเก้าปี
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดจากโลกของเขาอีกครั้ง
หม่อซิงเจ๋อจับมือหยุนเสี่ยงที่กำลังจะเดินจากไป กัดฟันพูดอย่างเดือดดาล "หยุนเสี่ยง ฉันรอเธอมาเก้าปี แค่ให้เธอรออีกเก้านาทีมันยากนักเหรอ?"
น้ำตาของหยุนเสี่ยงไหลอาบแก้ม "ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว"
หม่อซิงเจ๋อโกรธจนแทบคลั่ง เขาทุ่มเททุกวิถีทางก็เพื่อกักเธอไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตเท่านั้น
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก