บทนำ
บท 1
“Wow this is so good”
สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง นัยน์ตาสีดำขลับ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างปราดเปรียวหันมองทุกสิ่งรอบตัวอย่างตื่นเต้น ขณะที่กางแขนออกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับนักเต้นบัลเล่ต์
“เรียม ! เรียมมมมม หยุดโซกูด ! ไหนคนที่บอกว่าจะมารับ ?”
สาวอีกคนลากกระเป๋าเดินทางใบโตตามหลังด้วยทีท่ากระฟัดกระเฟียด ใบหน้าสีขาวขึ้นสีแดงจัด ! แม้จะรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงอีกคนหากแต่ว่าไม่คล่องแคล่วว่องไวเท่ากับสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง
ด้วยความที่ตนเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดรายได้หลักของครอบครัวมาจากการเก็บค่าเช่าแผงและเปิดร้านขายของชำ แต่เพื่อนสาวผู้ที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพียงลูกสาวแม่ค้าขายส้มตำในตลาดของตน ดังนั้น แม้จะเป็นเพื่อนที่วิ่งเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่หล่อนกลับรู้สึกเสมอว่า เธอเหนือกว่าเพื่อนสาวทุกด้าน
“Oh Something slips my mind !”
สาวสีน้ำผึ้งหุบแขนลงทันควัน หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนและเพื่อนเพิ่งจะมาเหยียบอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยได้รับคำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะจากป้าเดือนว่าลูกสาวของเธอจะส่งคนมารับพวกหล่อนที่สนามบินทันทีที่ไปถึง
“เรียม ! แกคุยกับฉันแค่สองคน ไม่ต้องสปีกอิงลิงซ์ก็ได้ !”
เพื่อนสาวเริ่มหงุดหงิดเพราะเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบินข้ามภูเขาข้ามทะเลจากบ้านเกิดมาไกลถึงอีกซีกโลกหนึ่ง ต้องทนนั่งเครื่องบินนานกว่า 22 ชั่วโมง !
“I’m so sorry”
สาวผิวสีน้ำผึ้งรีบตะคุบปากตัวเองที่เผลอพูดภาษาอังกฤษออกมา เพื่อนสาวถึงกับส่งค้อนวงใหญ่ให้ แต่คนปากไวก็ลดเสียงลงพร้อมกับเอ่ยเป็นภาษาบ้านเกิดแทน
“โอ๋ ๆ ชะเอม หมู่ฮักหมู่แพง เฮาขอโทษ”
“ยะ ! แล้วกรุณาเรียกฉันว่า –เอ็มมี่- บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกชะเอม มันเชย !”
คนถูกเรียก “ชะเอม” ส่งค้อนให้เพื่อนตัวดีอีกรอบ โทษฐานที่ชอบเรียกชื่อเฉย ๆ ออกมา
แม้หล่อนจะเป็นคนอีสานเหมือนกับเพื่อนสาว แต่เมื่อเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ หล่อนก็บอกกับเพื่อนๆ ทุกคนว่าชื่อ “เอ็มมี่” และปฏิบัติตัวเยี่ยงคุณหนู ใช้ของแบรนด์เนม เดินห้างจับจ่ายซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแทบทุกสัปดาห์ นับตั้งแต่นั้นมา เอ็มมี่ก็ไม่เคยพูดภาษาอีสานอีกเลย
ซึ่งต่างจาก “นางสาวเรียม ขวัญนา” ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหล่อนก็ยังคงชอบพูดอีสานเหมือนเดิม รวมถึงการเป็นหญิงสาวที่มีพลังอย่างเหลือเฟือ
ร่างบอบบางผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดนั้นไม่รู้เจ้าหล่อนเก็บพลังไว้ที่ไหนมากมาย การเดินทางรอนแรมไม่ทำให้เพื่อนสาวแสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอที่อยากจะเข้าที่พักใจแทบขาด ยิ่งมองเห็นฝรั่งตัวโตทั้งผิวดำผิวขาวเดินกันขวักไขว่ละลาน ยิ่งทำให้รู้สึกมึนๆ ในหัว มองไปทางไหนก็มีแต่สิ่งที่ใหญ่โตกว่าบ้านเมืองที่หล่อนจากมา
“ป้าเดือนบอกว่า เอื้อยดาวสิมาฮับอยู่สนามบิน”
เสียงแจ้ว ๆ ภาษาอีสานของเรียมบอกกับเพื่อนให้วางใจ เพราะป้าเดือนเจ้าร้านขายน้ำปั่นที่อยู่ข้างร้านส้มตำของหล่อนเป็นคนแนะนำให้หล่อนและเพื่อนมาทำงานกับลูกสาวของตนที่อเมริกา
ป้าเดือนแกสาธยายไว้เสียเยอะว่า นังดาวมันส่งเงินกลับมาให้แกเดือนละหลายหมื่น ร้านใหม่ บ้านใหม่ ก็เพราะเงินของลูกสาวแก และเด็กสาวหลายๆ คนในหมู่บ้านที่ถูกชักชวนให้ไปทำงานกับลูกสาวแกก็เริ่มทยอยส่งเงินกลับมาให้พ่อแม่ที่บ้านนอก
ดังนั้น เมื่อเรียมจบปริญญาตรีแล้วยังหางานทำไม่ได้ แม่จึงฝากฝังหล่อนให้ไปทำงานกับลูกป้าเดือน โดยป้าเดือนจะเป็นคนดำเนินการให้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งเรื่องที่อยู่ที่กินที่อเมริกา
“ไหนหล่ะ ? พี่ดาว ฉันไม่เห็นใครจะหน้าตาเหมือนคนไทยสักคน มีแต่ฝรั่งตัวเหม็น ๆ”
เอ็มมี่กระทืบเท้าอย่างขัดใจ นี่ถ้าอยู่เมืองไทยหล่อนคงจะแล่นกลับไปนอนตากแอร์ที่บ้านเสียนานแล้ว ถ้าไม่เพราะอยากจะได้ชื่อว่า “ได้ทำงานที่อเมริกา” หล่อนก็คงไม่เสนอตัว ขอมาทำงานเป็นเพื่อนยัยเรียมคนซื่อหรอก !
“ใจฮ่ม ๆ เด้อคุณเอ็มมี่ เอ๊ะ ! นั้น ! แมนเอื้อยดาวบ่ ? เอื้อยดาว ! เอื้อยดาว ! ทางนี้ ๆ”
เรียมโบกไม้โบกมือตะโกนเรียกสาวสวยสุดเซ็กซี่ในชุดลายเสือภายใต้เสื้อโค้ทหนังสีดำวาว
เอ็มมี่ยกมือขึ้นขยับแว่นตากันแดด แล้วก้าวห่างออกจากเพื่อนสาวที่ส่งสำเนียงอีสานตะโกนโหวกเหวก แม้ว่าจะอยู่ในอเมริกาที่ไม่มีใครรู้จักหล่อนก็ยังรู้สึกกระดากอายอยู่ดี หากต้องยืนใกล้ ๆ เพื่อนสาวที่ออกอาการราวกับบ้านนอกเข้าเมือง
“Hi ! เรียม !”
สาวผิวสีแทนออกคล้ำกว่า ทรวดทรงใหญ่โตมหึมากว่าสาวน้อยที่ยืนโบกมือ ส่งเสียงทักทายเมื่อเดินมาถึง
“เอื้อยดาว ! เอื้อยดาวอีหลีตั๋วนิ !”
เรียมโผเข้าจับมือเรียวที่เต็มไปด้วยแหวนทอง พลางเขย่าอย่างดีใจที่ได้พบคนบ้านเดียวกันในต่างแดน
“ยินดีต้อนรับสู่แดนศิวิไลซ์ ที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่ง ! และทุกอย่างที่เราอยากได้ !”
ดาวยิ้มต้อนรับวางมืออีกข้างทับลงที่มือเด็กสาว ที่จะกลายเป็นพนักงานคนใหม่ของ “ร้านสปาแดนสรวง” ในอีกไม่กี่ชั่วโมง
“ขอบใจเอื้อยดาวหลายๆ ที่ให้ข้อยมาทำงานนำ”
เรียมยิ้มจนเห็นฟันซี่เล็ก ๆ เรียงเป็นระเบียบ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ก็คนเป็นเดียวกัน มีอะไรดี ๆ พี่ก็อยากให้แนะนำน้อง ๆ ให้ทำด้วย เอ่อไหนว่ามากันสองคนแล้วอีกคนไหนหล่ะ ?”
“คาแต่ดีใจ ลืมไปเลยจ้า เอ้า ! เอ็มมี่มานี่ มานี่”
เรียมก้าวฉับ ๆ ไปดึงมือเพื่อนสาวให้เข้ามาอยู่ในวงสนทนา
“เอ็มมี่ ลูกสาวป้าชบาเจ้าของตลาดใช่ไหม ?”
“ค่ะ”
ลูกสาวเจ้าของตลาดตอบสั้น ๆ สำรวจคู่สนทนาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเบ้ปากพลางคิดในใจ –โถ ๆ มาอยู่อเมริกาตั้งนาน รสนิยมการแต่งตัวได้เท่านี้ ฉันยังดูดีกว่าตั้งเยอะ- หญิงสาวกระชับเสื้อคลุมสีน้ำตาลแต่งขนสัตว์ฟูฟ่อง เชิดหน้าขึ้น
“โตขึ้นแล้วหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวสวยเหมือนกันนะเรานิ”
สาวอาวุโสกว่าพินิจสาวน้อยที่แสนจะยโสตรงหน้า ก็สมควรอยู่หรอกที่หล่อนจะถือตัว เพราะเอ็มมี่เป็นถึงลูกสาวเจ้าของตลาด
“ขอบคุณค่ะ”
เอ็มมี่ยิ้มรับน้อย ๆ ชอบที่จะให้คนชมว่าสวย
“แต่ขาว ๆ แบบนี้ฝรั่งเขาไม่ชอบหรอกนะ เขาชอบผิวเข้ม ๆ แบบนางเรียมนี่”
ดาวเอ่ยต่อท้าย
เอ็มมี่แทบจะหุบรอยยิ้มแห่งความภูมิใจในความสวยไม่ทัน ปากบางเชิดขึ้น เม้นสนิทสะกดอารมณ์ที่อยากจะกรีดใส่หญิงสาวตรงหน้า อย่างไรเสียหล่อนก็ต้องพึ่งพาผู้หญิงคนนี้จนกว่าจะหางานที่ถูกใจได้ และหลอนจะทนแค่ไม่นาน คนอย่างเอ็มมี่ ลูกสาวเจ้าของตลาดจะไม่ยอมทำงานในร้าน สปาเป็นพนักงานชั้นต่ำเหมือนกับเรียมเป็นแน่ !
บทล่าสุด
#75 บทที่ 75 ตอนพิเศษ
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#74 บทที่ 74 ตอนจบ
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#73 บทที่ 73 “กรี้ดดดดดด ไม่อยู่แล้ว”
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#72 บทที่ 72 ไปพูดกับมันดี ๆ ทำไม
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#71 บทที่ 71 ผมอยากทำอะไรดี ๆ ให้คุณกับลูก
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#70 บทที่ 70 ถ้าไม่ห่วงตัวเอง ก็ห่วงชีวิตน้อย ๆ ในท้องบ้าง เขาคือผู้บริสุทธิ์
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#69 บทที่ 69 ไอ้โจรชั่ว ข่มขืนทิชาจนตั้งท้อง !
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#68 บทที่ 68 นังหนู ! นี่เอ็งไปกินรังแตนที่ไหนมา
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#67 บทที่ 67 “ยิงมันทิ้งเลยดีไหมครับนาย”
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025#66 บทที่ 66 “ไอ้ทุเรศ ! ไอ้ลามก !”
อัปเดตล่าสุด: 12/11/2025
คุณอาจชอบ 😍
รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ
ปรเมศ จิรกุล หมอหนุ่มเนื้อหอม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นกับธารธารา อัศวนนท์
ปรเมศตั้งแง่รังเกียจธารธาราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า เพียงเพราะเธอแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เขาเลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศน่ารังเกียจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหมอสาวมาดทอมหัวใจหญิงนั้นจะเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจ และดูเหมือนคำกล่าวที่ว่าเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนทั้งคู่
กระทั่งดวลเหล้ากันจนเมาแบบขาดสติสุดกู่ เขาจึงเผลอปล้ำแม่สาวทอมที่เขาประกาศว่าเกลียดเข้าไส้ หนำซ้ำยังโยนความผิดว่า ‘ความสัมพันธ์บัดซบ’ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยทอมตัวแสบยั่วเขา เมากับเมาเอากันแล้วไง น้ำแตกก็แยกทาง ทว่าพออีกฝ่ายหลบหน้าเขากลับร้อนรนกระวนกระวาย ครั้นทนไม่ไหวหมอหนุ่มจอมยโสก็ต้องคอยราวี และตามหึงหวงเมื่อมีใครคิดจะจีบ ‘เมียทอม’ ของเขา แต่กว่าจะรู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว
ลิขิตรักนายสุดหื่น
เรื่องย่อ....
“คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…”
“ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…”
“ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…”
“หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…”
“อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้”
“ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
“อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
โซ่สวาทร้อนรัก
“มันเรื่องของฉัน ตัวฉันของฉันนมก็นมของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ก็สิทธ์ของความเป็นผัวคนแรกของคุณไง นมคุณน่ะเป็นของผม ทั้งตัวคุณก็เป็นของผม...เข้าใจไหม? ”
คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง
ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี
สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
ขย่มรักมาเฟีย
"ความทรงจำบ้าบออะไรของคุณ ฉันไม่อยากจะทบทวนอะไรทั้งนั้น ออกไปห่างๆฉันเลยนะ...อื้อ...ปล่อยฉันสิ ไอ้มาเฟียบ้า...จะมายุ่งกับฉันทำไมห้ะ!...."
"ไม่ยุ่งกับเมีย...แล้วจะให้ไปยุ่งกับหมาแมวที่ไหนล่ะหึ...ไม่ได้เจอตั้งนาน...คิดถึงดุ้นของผมไหม...อยากจะอม...อยากจะเลียเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า...."
"ไม่....ถ้าคุณเสี้ยนมากนักก็ไปเอากับผู้หญิงของคุณสิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขาเต็มใจทำให้คุณแบบถึงอกถึงใจ คุณจะมาบีบบังคับฉันให้เสียแรงทำไม"
"ก็ผู้หญิงพวกนั้นมันไม่ตื่นเต้นเหมือนกับคุณนิ....ผมชอบใช้แรง...โดยเฉพาะกับคุณ....ชอบเยแรงๆ....ตอกแบบจุกๆ และที่สำคัญผมชอบตอนที่คุณครางเหมือนคนกำลังจะตายตอนที่ผมกำลังเอาคุณ"
"ใครโดนคุณเอาก็ต้องครางเหมือนจะตายกันทั้งนั้นแหละ ใหญ่เกินบ้านเกินเมืองซะขนาดนั้น ไปผู้หญิงเอาพวกนั้นไป อย่ามายุ่งกับฉัน...อื้อ...ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมชอบไล่ให้ผมไปเอาคนอื่นนักหึ....ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะเอาคุณ....ผมชอบหอยฟิตๆของคุณมากกว่า...ผมหลง...ผมคลั่งไคล้...และผมก็อยากจะได้มันอีก...หลายๆครั้ง....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....จนกว่าหอยน้อยๆของคุณมันจะรับไม่ไหว...อืม....ไม่ได้เอามานานแล้ว....คุณให้ใครมาซ้ำรอยผมหรือเปล่า...."
เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD
หนุ่มหล่อ ลูกชายมาเฟียตระกูลใหญ่ผู้เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาถูกผู้หญิงหลายคนตราหน้าว่าไร้หัวใจ ถึงอย่างนั้นเพราะความหล่อก็ยังมีผู้หญิงอีกมายมายที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับเขา
แต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารังเกียจและไม่อยากเจอหน้าถึงแม้เธอจะพยายามเท่าไรก็ไม่มีวันมีค่าในสายตาของเขา
“อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรือไง ฉันกำลังจะสนองให้เธอเป็นอยู่นี่ไง แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียแต่ง อย่าคิดหวังสูงเกินไป!!”
มิลิน
เธอถูกคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งแต่เด็กรังเกียจเพียงเพราะเขาคิดว่าแม่เธอคือเมียน้อยของพ่อเขา ถึงแม้เขาจะไม่สนใจใยดีอะไรเธอเลย แต่เธอก็ยังรักเขาหมดหัวใจ
ทั้งที่คิดว่าหากยอมยกร่างกายให้เขาแล้วจะได้ความรักกลับคืนมา แต่สุดท้ายก็ได้เพียงความเกลียดชัง
I’m evil guy ปีศาจตัวร้ายพ่ายรัก
3P อาหมวยโดนอาเฮียใหญ่ทั้งสองจับทำเมีย
ทาสสวาทอสูรเถื่อน
“แพงไปหรือเปล่า สำหรับค่าตัวของคุณอย่างมากก็คืนละแสน” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับมองร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนตักของเขาด้วยสายตาหื่นกระหาย เขายอมรับว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวยและที่สำคัญนมตูมชะมัดยาก
มันโดนใจเขาจริงๆ ยิ่งสเต็ปการอ่อยของผู้หญิงคนนี้เขาก็ยิ่งชอบ เพราะมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอกำลังทำ
“ถ้าคุณไม่สู้ก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปหาคนที่เขาใจถึงกว่าคุณ” พิชชาภาพูดจบก็เอามือยันหน้าอกของฟรานติโน่แล้วทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา ก่อนจะถูกมือใหญ่รั้งเอวไว้ไม่ให้ลุกขึ้น
“ได้ ผมจะให้คุณคืนละล้าน แต่คุณต้องตามใจผมทุกอย่าง” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมเสียเงินหนึ่งล้านบาทง่ายๆงั้นเหรอ คอยดูเถอะเขาจะตักตวงจากเธอให้คุ้มสมราคาที่เขาต้องจ่ายไป
เมียขัดดอก
"คุณหมอคะฉันขอร้องล่ะคุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยเถอะนะ" หญิงสาวขอร้องอ้อนวอนถึงขั้นยกมือขึ้นมากราบไหว้
"ทางเราช่วยได้เท่าที่ช่วยจริงๆ" ถ้าเขาทำแบบนั้น โรงพยาบาลของเขาอาจจะถูกฟ้องได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย และมันก็ไม่คุ้มกับการเสี่ยง
"ฉันขอร้องล่ะค่ะ จะให้กราบเท้าฉันก็ยอม"
"คุณอย่าทำแบบนี้เลย"เขารีบพยุงร่างของหญิงสาวที่กำลังจะคุกเข่าลงตรงหน้าให้กลับขึ้นมายืนใหม่อีกครั้ง
"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันเคยเรียนหมอมาค่ะ ฉันคงพอช่วยงานคุณได้ไม่มากก็น้อย" เพราะเธอเคยเรียนมาด้านนี้ก็เลยรู้ว่าใครที่สามารถจะช่วยแม่ของเธอได้ และก็รู้ด้วยว่ามันเสี่ยงมากถ้าจะทำแบบนี้
"คุณก็เคยเรียนหมอมา คุณก็คงจะรู้ผมคงช่วยไม่ได้"
"ถ้าเปลี่ยนจากช่วยงานเป็นเอาร่างกายของฉันแลกเปลี่ยนได้ไหมคะ"
"คุณพูดอะไร"
"ถ้าคุณหมอยอมช่วยผ่าตัดให้แม่ฉันฉันจะยอมมอบร่างกายให้คุณค่ะ" เธอมีคนที่จะมาบริจาคอวัยวะแล้ว เหลือแค่การผ่าตัดเท่านั้น..
BAD FIANCE พันธะรักคู่หมั้นใจร้าย
ดิบ เถื่อน รัก
เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนกับ ‘อดีตเพื่อนรัก’ ที่กลายเป็นเพื่อนชัง เพื่อนที่เธอแอบรักเขาเพียงแค่ข้างเดียว เพื่อนที่ตราหน้าว่าเธอคือคนที่ทำให้ผู้หญิงที่เขารักจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
“ตั้งแต่วันนี้เราขาดกัน! มึงไม่ใช่เพื่อนกูอีกต่อไป อ้อ…แล้วก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ ว่าแม้แต่แอบรักกูมึงก็ไม่มีสิทธิ์” เขาประกาศตัดความสัมพันธ์อย่างสิ้นเยื่อขาดใย วาจาทำร้ายหัวใจอย่างแสนสาหัสทำให้เธอน้ำตารื้น
“จอมมึงฟังกูก่อนได้ไหม”
เสียงสั่นเครือพยายามเอ่ยวิงวอน จากนั้นเธอก็วิ่งตามร่างใหญ่ไป แล้วยื้อแขนกำยำเอาไว้สุดแรง ก่อนจะถูกผลักลงไปกองกับผืนทรายร้อนๆ อย่างไร้ปรานี ครั้นจะตามไปยื้ออีกหนก็ต้องผงะ หลับตาปี๋ กลั้นหายใจตัวแข็งทื่อ เมื่อจอมโหดควักปืนออกมายิงเฉียดใบหูไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด
ปัง!
“ออกไปจากชีวิตกูซะ! แล้วก็อย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก!”
เขาเค้นเสียงลอดไรฟัน ขณะทอดสายตาชิงชังมาให้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้คนถูกเขาผลักไสออกไปจากชีวิตร้องไห้ปานปิ่มจะขาดใจ
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก













