บทนำ
บท 1
ฉันวิ่งไปตามโถงทางเดินของมหาวิทยาลัย สัมผัสได้ถึงเหงื่อที่ไหลอาบแผ่นหลังขณะที่เช็กตารางเรียนคาบแรกอย่างร้อนรน การตื่นสายในวันแรกของการเรียนเนี่ย มันเป็นอะไรที่สไตล์ฉันสุดๆ เลย
“เชี่ย เชี่ย เชี่ย!” ฉันสบถกับตัวเองเบาๆ ขณะที่สะดุดขาตัวเองจนหนังสือกองโตหลุดจากมือ ฉันรีบคว้ามันขึ้นมาแล้ววิ่งต่อ หวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะไปทันเวลา
ในที่สุดฉันก็เห็นป้ายห้องบรรยาย 301 แล้วพรวดพราดเข้าไปในห้องโดยไม่คิดจะเคาะประตูด้วยซ้ำ ทั้งห้องเงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉันขณะที่ฉันเดินสะดุดอย่างงุ่มง่ามเพื่อหาที่นั่ง
ชายที่อยู่หน้าห้องซึ่งฉันเดาว่าเป็นอาจารย์ จ้องฉันเขม็งด้วยสีหน้าเรียบตึงราวกับว่าฉันเพิ่งจะบุกเข้าไปขัดจังหวะงานศพพ่อของเขาในชุดแต่งงาน
ฉันหัวเราะแหะๆ พร้อมกับยกมือขึ้นเชิงขอโทษ พยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ รู้สึกเหมือนนักศึกษาทุกคนกำลังจ้องมองฉันอยู่จนกระทั่งในที่สุดอาจารย์ก็ยอมพูดขึ้นมา
“อย่างที่ผมกำลังพูดไปก่อนที่จะถูกขัดจังหวะอย่างไม่มีมารยาท” เขาเริ่มพูด พลางชำเลืองมองมาทางฉัน “ผมชื่อศาสตราจารย์แกรี่ และผมจะเป็นอาจารย์สอนวิชาการถ่ายภาพของคุณในเทอมนี้”
ฉันทรุดตัวลงบนเก้าอี้มากขึ้นไปอีก ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอายกับการมาถึงอย่างซุ่มซ่ามของตัวเอง
“ว้าว เปิดตัวได้เริ่ดมาก! ขนาดเป็นเลสเบี้ยนด้วยกันยังอายแทนเลย” ฉันได้ยินเสียงกระซิบจากข้างๆ เลยหันไปเห็นผู้ชายผมดำตาสีฟ้าเข้มคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มเจิดจ้าแบบดาราฮอลลีวูดมาให้
“ว่าไงนะ” ฉันเลิกคิ้ว ประหลาดใจในความใจกล้าของเขา “ใครบอกนายว่าฉันเป็นเลสเบี้ยน”
“โอ๊ย แม่คุณเอ๊ย” เขากรอกตา “เชือกรองเท้าสีรุ้ง? เสื้อเชิ้ตผ้าสักหลาด? แล้วเล็บเธอนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยนะ”
“นี่นายสังเกตทั้งหมดนั่นได้ใน 10 วินาทีเลยเหรอ ให้ทายนะ... เกย์ใช่ปะ” ฉันหัวเราะเบาๆ พยายามคลายความตึงเครียด
“เซบาสเตียนต่างหาก” เขาตอบพร้อมกับยื่นมือมาให้ฉันจับ “และจากนี้ไป... เพื่อนซี้ของเธอ”
“เยี่ยมเลย ขั้นแรกสำเร็จไปได้ด้วยดี อย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้ว” ฉันพูดขณะจับมือเขาแล้วยกนิ้วโป้งให้
เราทั้งคู่หันกลับไปสนใจอาจารย์ที่กำลังพูดถึงองค์ประกอบพื้นฐานของการถ่ายภาพต่อ ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
วันนี้มันน่าจะแย่กว่านี้ได้อีกเยอะ การได้เรียนปริญญาด้านการละครเป็นความฝันของฉันมาตลอด และถึงแม้ฉันจะไม่ได้สนใจการถ่ายภาพเป็นพิเศษ แต่มันก็เป็นวิชาพื้นฐานที่ต้องเรียนให้จบในปีแรกของมหาวิทยาลัย
ตั้งแต่เด็กฉันก็หลงใหลในการแสดงแล้ว ฉันไปคัดตัวนักแสดงหลายครั้งและได้เล่นบทเล็กๆ ในโฆษณาทีวีสองสามชิ้น แต่มันก็ยังห่างไกลจากสิ่งที่ฉันอยากทำหรือคนที่ฉันอยากจะเป็น
คาบบรรยายจบเร็วกว่าที่คาดไว้เพราะเป็นแค่การเกริ่นนำ พอมีเวลาว่าง เซบาสเตียนกับฉันเลยตัดสินใจไปหาอะไรดื่มด้วยกันเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
“แล้วนายตั้งใจจะเรียนเอกอะไรเหรอ” ฉันถามด้วยความอยากรู้จริงๆ
“ฉันอยากเป็นผู้กำกับ เหมือนพี่ชายของฉันน่ะ เขาเป็นฮีโร่ของฉันเลย” เซบาสเตียนตอบ น้ำเสียงเจือความภาคภูมิใจ
“พี่ชายนายคือใครเหรอ” ฉันถาม
"เธอต้องรู้จักเขาแน่ๆ เขาเป็นผู้กำกับชื่อดัง... เอซรา กาเอล" เซบาสเตียนพูดพลางยิ้มจนตาเป็นประกาย
"จริงเหรอ ล้อกันเล่นใช่ไหม!" ฉันอุทาน เอซรา กาเอลเป็นชื่อที่ใครๆ ก็รู้จักในวงการ และการที่เซบาสเตียนเป็นน้องชายของเขาทำเอาฉันอึ้งไปเลย
เซบาสเตียนหัวเราะเบาๆ "งั้นเธอก็รู้จักเขาสินะ ดีเลย"
"รู้จักสิ! เขาทำงานกับโอลิเวีย โลเปซนี่นา เธอเป็นดาราในดวงใจของฉันตั้งแต่ตอนอายุ 12 เลยนะ" ฉันอุทาน นึกถึงนักแสดงสาวสวยที่ครองใจคนไปทั่ว
"ใช่แล้วล่ะ ฉันเจอเธอที่กองถ่ายหลายครั้งแล้ว" เซบาสเตียนพูดพลางหัวเราะเบาๆ
"ไม่จริงน่า! เธอโชคดีสุดๆ ไปเลย! เล่าให้ฟังหน่อยสิว่าตัวจริงเธอเป็นคนยังไง" ฉันกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น อยากจะฟังเรื่องของเธอใจจะขาด
"อืม ตัวจริงเธอน่าทึ่งมากเลยนะ เธอเป็นคนถ่อมตัว ติดดิน แล้วก็เป็นคนที่คุยด้วยง่ายมากๆ" เซบาสเตียนเล่า และหัวใจของฉันก็เต้นรัวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น วันนี้มันดีขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ
"จริงๆ แล้วฉันอยากเรียนเอกการแสดงก็เพื่อหวังว่าสักวันจะได้มีโอกาสเจอเธอนั่นแหละ" ฉันพูดพลางพิงกำแพงแล้วจิบกาแฟอีกอึก
"อ้อ งั้นเธอก็อยากเป็นนักแสดงสินะ แล้วได้เริ่มงานแสดงบ้างหรือยัง หรือว่ารอให้เรียนจบก่อน" เซบาสเตียนถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมาทันที
"เคยเล่นบทรองมาบ้างสองสามเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่บทที่จะทำให้ฉันได้เข้าใกล้อยู่ในระดับเดียวกับโอลิเวียหรอก" ฉันหัวเราะแหะๆ รู้สึกอายกับบทที่เคยได้รับมานิดหน่อย
"แล้วเธอมีเอเจนซี่สังกัดอยู่ไหม หรือว่าแค่ลองหาลู่ทางด้วยตัวเอง" เซบาสเตียนถาม
"ก็มีเอเจนซี่นะ แต่พวกเขาไม่ค่อยป้อนงานให้ฉันเท่าไหร่ บทที่ได้ก็มีแต่แนวเดิมๆ... ขายหน้าตาอย่างเดียว ไม่ได้ท้าทายความสามารถทางการแสดงเลย ฉันไม่มีปัญญาปฏิเสธงานหรอก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนตัวเองติดแหง็กอยู่กับงานโฆษณา" ฉันอธิบาย หวังว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน
"ฉันเข้าใจเลย เธอดูสวยใสบริสุทธิ์จริงๆ นั่นแหละ" เซบาสเตียนหัวเราะเบาๆ และฉันก็อดรู้สึกดีใจแกมเขินนิดๆ ไม่ได้
"เอาอย่างนี้ไหม" เซบาสเตียนพูด แววตาเป็นประกาย "เอซรากำลังจะเปิดออดิชันซีรีส์เรื่องใหม่ที่พวกเขากำลังจะถ่ายทำกันพอดี ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่เดี๋ยวฉันบอกได้ว่าเขาออดิชันกันเมื่อไหร่ แล้วเอเจนซี่ของเธอก็ลองติดต่อไปขอรับบทดู"
ฉันตกใจจนเกือบทำกาแฟหก "จริงเหรอ" ฉันอุทานอย่างตื่นเต้น
เซบาสเตียนหัวเราะ "ใช่ แต่เอเจนซี่ของเธอต้องส่งเธอเข้าไปให้ได้นะ บริษัทของพี่เขาน่ะการแข่งขันสูงมาก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
"แค่นี้ก็เกินพอแล้ว ขอบคุณมากจริงๆ นะ!" ฉันร้องเสียงหลงแล้วโผเข้ากอดเขา
"เธอว่าฉันจะมีโอกาสบังเอิญเจอโอลิเวียไหม" ฉันพูดพลางหัวเราะแห้งๆ
"ตอนนี้พี่เขาไม่ได้ทำงานกับเธอแล้วนะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ" เซบาสเตียนพูดพลางเคาะคางตัวเองเบาๆ
"บ้าน่า! ฉันแค่ล้อเล่น ตอนนี้ฉันชักจะประหม่าขึ้นมาจริงๆ แล้วเนี่ย" ฉันพูด รู้สึกกังวลใจ
"ตั้งใจไปออดิชันให้ผ่านก่อนเถอะ แล้วค่อยกังวลเรื่องที่จะบังเอิญเจอดาราในดวงใจของเธอก็ยังไม่สาย" เซบาสเตียนพูดพลางกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย
"นั่นสินะ เธอพูดถูกเผงเลย ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง" ฉันพูดพลางยิ้ม พลางสงสัยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
บทล่าสุด
#82 บทที่ 82
อัปเดตล่าสุด: 11/11/2025#81 บทที่ 81
อัปเดตล่าสุด: 11/9/2025#80 บทที่ 80
อัปเดตล่าสุด: 11/5/2025#79 บทที่ 79
อัปเดตล่าสุด: 11/4/2025#78 บทที่ 78
อัปเดตล่าสุด: 11/3/2025#77 บทที่ 78
อัปเดตล่าสุด: 11/2/2025#76 บทที่ 76
อัปเดตล่าสุด: 9/28/2025#75 บทที่ 75
อัปเดตล่าสุด: 9/19/2025#74 บทที่ 74
อัปเดตล่าสุด: 9/19/2025#73 บทที่ 73
อัปเดตล่าสุด: 9/9/2025
คุณอาจชอบ 😍
รักโคตรร้าย ผู้ชายพันธุ์ดิบ
ปรเมศ จิรกุล หมอหนุ่มเนื้อหอม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เขาขึ้นชื่อเรื่องความฮอตฉ่า เป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน เทคแคร์ดีเยี่ยม และให้เกียรติผู้หญิงทุกคน ยกเว้นกับธารธารา อัศวนนท์
ปรเมศตั้งแง่รังเกียจธารธาราตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า เพียงเพราะเธอแต่งตัวเหมือนผู้ชาย เขาเลยประณามว่าเธอเป็นพวกผิดเพศน่ารังเกียจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าหมอสาวมาดทอมหัวใจหญิงนั้นจะเฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเจียมตัวดีว่าอีกฝ่ายแสนจะรังเกียจ และดูเหมือนคำกล่าวที่ว่าเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับคนทั้งคู่
กระทั่งดวลเหล้ากันจนเมาแบบขาดสติสุดกู่ เขาจึงเผลอปล้ำแม่สาวทอมที่เขาประกาศว่าเกลียดเข้าไส้ หนำซ้ำยังโยนความผิดว่า ‘ความสัมพันธ์บัดซบ’ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะยัยทอมตัวแสบยั่วเขา เมากับเมาเอากันแล้วไง น้ำแตกก็แยกทาง ทว่าพออีกฝ่ายหลบหน้าเขากลับร้อนรนกระวนกระวาย ครั้นทนไม่ไหวหมอหนุ่มจอมยโสก็ต้องคอยราวี และตามหึงหวงเมื่อมีใครคิดจะจีบ ‘เมียทอม’ ของเขา แต่กว่าจะรู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว
ลิขิตรักนายสุดหื่น
เรื่องย่อ....
“คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…”
“ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…”
“ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…”
“หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…”
“อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้”
“ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”
“อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….”
โซ่สวาทร้อนรัก
“มันเรื่องของฉัน ตัวฉันของฉันนมก็นมของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ก็สิทธ์ของความเป็นผัวคนแรกของคุณไง นมคุณน่ะเป็นของผม ทั้งตัวคุณก็เป็นของผม...เข้าใจไหม? ”
คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง
ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี
สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
เด็กดื้อคนโปรด (ของมาเฟีย) BAD
หนุ่มหล่อ ลูกชายมาเฟียตระกูลใหญ่ผู้เย็นชาไร้ความรู้สึก เขาถูกผู้หญิงหลายคนตราหน้าว่าไร้หัวใจ ถึงอย่างนั้นเพราะความหล่อก็ยังมีผู้หญิงอีกมายมายที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับเขา
แต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารังเกียจและไม่อยากเจอหน้าถึงแม้เธอจะพยายามเท่าไรก็ไม่มีวันมีค่าในสายตาของเขา
“อยากเป็นเมียฉันมากไม่ใช่หรือไง ฉันกำลังจะสนองให้เธอเป็นอยู่นี่ไง แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียแต่ง อย่าคิดหวังสูงเกินไป!!”
มิลิน
เธอถูกคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งแต่เด็กรังเกียจเพียงเพราะเขาคิดว่าแม่เธอคือเมียน้อยของพ่อเขา ถึงแม้เขาจะไม่สนใจใยดีอะไรเธอเลย แต่เธอก็ยังรักเขาหมดหัวใจ
ทั้งที่คิดว่าหากยอมยกร่างกายให้เขาแล้วจะได้ความรักกลับคืนมา แต่สุดท้ายก็ได้เพียงความเกลียดชัง
ขย่มรักมาเฟีย
"ความทรงจำบ้าบออะไรของคุณ ฉันไม่อยากจะทบทวนอะไรทั้งนั้น ออกไปห่างๆฉันเลยนะ...อื้อ...ปล่อยฉันสิ ไอ้มาเฟียบ้า...จะมายุ่งกับฉันทำไมห้ะ!...."
"ไม่ยุ่งกับเมีย...แล้วจะให้ไปยุ่งกับหมาแมวที่ไหนล่ะหึ...ไม่ได้เจอตั้งนาน...คิดถึงดุ้นของผมไหม...อยากจะอม...อยากจะเลียเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า...."
"ไม่....ถ้าคุณเสี้ยนมากนักก็ไปเอากับผู้หญิงของคุณสิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขาเต็มใจทำให้คุณแบบถึงอกถึงใจ คุณจะมาบีบบังคับฉันให้เสียแรงทำไม"
"ก็ผู้หญิงพวกนั้นมันไม่ตื่นเต้นเหมือนกับคุณนิ....ผมชอบใช้แรง...โดยเฉพาะกับคุณ....ชอบเยแรงๆ....ตอกแบบจุกๆ และที่สำคัญผมชอบตอนที่คุณครางเหมือนคนกำลังจะตายตอนที่ผมกำลังเอาคุณ"
"ใครโดนคุณเอาก็ต้องครางเหมือนจะตายกันทั้งนั้นแหละ ใหญ่เกินบ้านเกินเมืองซะขนาดนั้น ไปผู้หญิงเอาพวกนั้นไป อย่ามายุ่งกับฉัน...อื้อ...ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมชอบไล่ให้ผมไปเอาคนอื่นนักหึ....ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะเอาคุณ....ผมชอบหอยฟิตๆของคุณมากกว่า...ผมหลง...ผมคลั่งไคล้...และผมก็อยากจะได้มันอีก...หลายๆครั้ง....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....จนกว่าหอยน้อยๆของคุณมันจะรับไม่ไหว...อืม....ไม่ได้เอามานานแล้ว....คุณให้ใครมาซ้ำรอยผมหรือเปล่า...."
I’m evil guy ปีศาจตัวร้ายพ่ายรัก
ทาสสวาทอสูรเถื่อน
“แพงไปหรือเปล่า สำหรับค่าตัวของคุณอย่างมากก็คืนละแสน” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับมองร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนตักของเขาด้วยสายตาหื่นกระหาย เขายอมรับว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวยและที่สำคัญนมตูมชะมัดยาก
มันโดนใจเขาจริงๆ ยิ่งสเต็ปการอ่อยของผู้หญิงคนนี้เขาก็ยิ่งชอบ เพราะมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอกำลังทำ
“ถ้าคุณไม่สู้ก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปหาคนที่เขาใจถึงกว่าคุณ” พิชชาภาพูดจบก็เอามือยันหน้าอกของฟรานติโน่แล้วทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา ก่อนจะถูกมือใหญ่รั้งเอวไว้ไม่ให้ลุกขึ้น
“ได้ ผมจะให้คุณคืนละล้าน แต่คุณต้องตามใจผมทุกอย่าง” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมเสียเงินหนึ่งล้านบาทง่ายๆงั้นเหรอ คอยดูเถอะเขาจะตักตวงจากเธอให้คุ้มสมราคาที่เขาต้องจ่ายไป
3P อาหมวยโดนอาเฮียใหญ่ทั้งสองจับทำเมีย
เมียขัดดอก
"คุณหมอคะฉันขอร้องล่ะคุณหมอช่วยแม่ฉันด้วยเถอะนะ" หญิงสาวขอร้องอ้อนวอนถึงขั้นยกมือขึ้นมากราบไหว้
"ทางเราช่วยได้เท่าที่ช่วยจริงๆ" ถ้าเขาทำแบบนั้น โรงพยาบาลของเขาอาจจะถูกฟ้องได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีเลย และมันก็ไม่คุ้มกับการเสี่ยง
"ฉันขอร้องล่ะค่ะ จะให้กราบเท้าฉันก็ยอม"
"คุณอย่าทำแบบนี้เลย"เขารีบพยุงร่างของหญิงสาวที่กำลังจะคุกเข่าลงตรงหน้าให้กลับขึ้นมายืนใหม่อีกครั้ง
"คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันเคยเรียนหมอมาค่ะ ฉันคงพอช่วยงานคุณได้ไม่มากก็น้อย" เพราะเธอเคยเรียนมาด้านนี้ก็เลยรู้ว่าใครที่สามารถจะช่วยแม่ของเธอได้ และก็รู้ด้วยว่ามันเสี่ยงมากถ้าจะทำแบบนี้
"คุณก็เคยเรียนหมอมา คุณก็คงจะรู้ผมคงช่วยไม่ได้"
"ถ้าเปลี่ยนจากช่วยงานเป็นเอาร่างกายของฉันแลกเปลี่ยนได้ไหมคะ"
"คุณพูดอะไร"
"ถ้าคุณหมอยอมช่วยผ่าตัดให้แม่ฉันฉันจะยอมมอบร่างกายให้คุณค่ะ" เธอมีคนที่จะมาบริจาคอวัยวะแล้ว เหลือแค่การผ่าตัดเท่านั้น..
BAD FIANCE พันธะรักคู่หมั้นใจร้าย
เพลิงเขมราช
เธอจึงไม่มีสิทธิ์อ้อนวอน
. . .
ใครต่อใครต่างกล่าวหาว่า ‘อมายา’ เป็นฆาตกร
ที่ฆ่าลูกเมียของ ‘เขมราช’ อย่างเลือดเย็น
นั่นก็เพราะมีหลักฐานมัดตัว แต่ทว่าเธอ ‘ไม่ได้ทำ’
กระนั้นใครเล่าจะเชื่อ
โดยเฉพาะเขา... ชายผู้กุมหัวใจเธอไว้ทั้งดวง
ความแค้นของเขาคอยตามหลอกหลอน
หลับตายังฝันเห็น ตื่นมาก็ยังรู้สึก...
มันทรมานเหมือนตายทั้งเป็น
แต่เพลิงแค้นไม่มีวันมอดลง
จนกว่าเธอจะได้ชดใช้อย่างสาสม
แม้ในวันเธอกำลังจะให้กำเนิด 'ลูกของเขา'
เขมราชกลับย้ำแผลใจให้ลึกลง เพราะเขาต้องการแค่ลูก
ส่วนเธอนั้นไม่มีความหมาย ก็แค่ผู้หญิงไร้ค่าที่รอเวลากำจัดทิ้ง...
. . .
พระเอกร้าย และนางเอกก็ร้ายพอ ๆ กัน
ใครเป็นความดันค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ซึมซับนะคะ
เนื้อหาทั้งหมด 57 บท (ไม่รวมบทพิเศษ 4 บท ถ้ารวมก็ 61 บท)
เนื้อหามีประเด็นเสียดสี ท่านใดอ่อนไหวง่ายโปรดใช้วิจารณญาณ
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก













