บทนำ
บท 1
"คุณแม็ค! มาถึงเมื่อไหร่คะ"
"มาถึงเมื่อไหร่? ถามแปลก ๆ นะป้าสุ ไม่มาถึงวันนี้แล้วจะให้ผมมาถึงวันที่เผาศพคุณแม่เรียบร้อยแล้วรึไง!"
"เอ่อ...ป้าขอโทษที่ถามค่ะคุณแม็ค ป้าแค่ถามเพราะไม่เห็นไข่นุ้ยมันไปรับคุณแม็คค่ะ"
"...ช่างมันเถอะ บอกไอ้นุ้ยเตรียมรถให้ผมด้วย"
"ค่ะคุณแม็ค"
"อ้อ! ผมจะไปแค่คนเดียว ส่วนคนอื่น...ให้หาปัญญาไปเอง"
"เอ่อ แต่..."
"ทำไม? มีปัญหาอะไรกับคำสั่งของผม"
"ไม่...ไม่มีค่ะคุณแม็ค"
ก๊อก ๆ ๆ
"เข้ามาเลยค่ะประตูไม่ได้ล็อก"
"คุณข้าวคะ"
"อ้าวป้าสุเองเหรอคะ ข้าวนึกว่าพี่ขวัญใจ"
"ค่ะคุณข้าว" ฉันหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ ป้าสุเป็นแม่บ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้เอง
"มีอะไรรึเปล่าคะ" ฉันถามป้าสุเพราะสีหน้าของป้าแกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อันที่จริงช่วงนี้ก็ไม่มีใครสดใสหรอกค่ะ คนในบ้านกำลังทุกข์เพราะเสาหลักของบ้านท่านได้จากไป แต่สีหน้าป้าสุดูกังวลจนฉันสัมผัสได้ว่ามันมีเรื่องอื่น
"คือว่า..."
"เขามาแล้วใช่ไหมคะ" คงไม่ต้องเดาให้ยากเพราะงานนี้ถ้าเขาไม่มามันก็คงเกินไปหน่อย
"ค่ะ ดูอารมณ์ไม่ดีเลยค่ะคุณข้าว"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะป้าสุที่มาบอกข้าว ป้าสุไปเตรียมตัวเถอะนะคะเราจะได้ไปวัดกัน"
"คือคุณแม็คเธอ...บอกว่าจะไปคนเดียวค่ะ ส่วนคนอื่น..." ฮึ! นิสัยเดิม ๆ
"ก็ให้เขาไปคนเดียวอย่างที่เขาต้องการนั่นล่ะค่ะ ป้าสุไม่ต้องกลัวข้าวจะรู้สึกแย่หรอก" เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะนั่งรถไปกับคนแบบนั้นเหมือนกัน แค่มองหน้ายังยังรู้สึกลำบากใจ
"ค่ะคุณข้าว ถ้างั้นเดี๋ยวป้าให้ไข่นุ้ยมันรีบกลับมารับคุณข้าวนะคะ อย่าไปกับเด็กในบ้านเลยรถมันคับแคบคุณข้าวจะอึดอัด"
"ไม่เป็นไรค่ะป้าสุ เดี๋ยวข้าวไปกับพี่เชนก็ได้ค่ะ ยังไงพี่เชนก็ไปวัดอยู่เเล้ว"
"จะดีเหรอคะ เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีนะคะคุณข้าว" พอบอกจะไปกับพี่เชน พี่ชายข้างบ้านป้าสุก็ทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที
"ใครจะมองไม่ดีคะ มีแค่คนนั้นคนเดียวไม่ใช่รึไง เขาก็ไม่เคยมองข้าวดีอยู่แล้ว ช่างเขาเถอะค่ะ"
"ก็ได้ค่ะคุณข้าว แต่ถ้าเปลี่ยนใจบอกป้านะคะป้าจะได้สั่งไข่นุ้ยมันเลย ป้าไม่อยากให้คุณทะเลาะกันตั้งแต่วันแรกที่เจอ ยังไงก็..."
"ข้าวสะดวกแบบนี้ค่ะ ป้าสุไปเถอะนะคะเดี๋ยวข้าวจะรีบแต่งตัวแล้ว วันนี้แขกท่าทางจะเยอะข้าวอยากไปดูแลความเรียบร้อยก่อน"
"ได้ค่ะ" ป้าสุรับคำแล้วก็เดินออกไป ส่วนฉันก็รีบแต่งตัว วันนี้นอกจากจะต้องรับแขกในงานศพของคุณป้า ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับอะไรอีก อาจจะพายุทอร์นาโดเลยก็ได้
-สามชั่วโมงต่อมา-
"ทำไมคุณข้าวไม่ไปนั่งฟังสวดข้างหน้าล่ะคะ"
"นั่งตรงนี้นี่แหละพี่ขวัญใจ ข้าวไม่อยากเข้าไปกลัวเจอพายุ" ฉันกระซิบบอกพี่ขวัญใจแม่บ้านอีกคนอย่างรู้กัน เพราะวันนี้เจ้าภาพของงานตัวจริงมาแล้ว ฉันที่เป็นแค่คนอาศัยไม่กล้าไปนั่งตรงนั้นหรอกค่ะ ขืนไปก็ได้โดนด่าว่าเสนอหน้าพอดี
อ้อ! ไม่ใช่แค่ไม่ไปนั่งตรงนั้นนะ แต่ฉันไม่โผล่หน้าไปให้เขาเห็นเลยต่างหาก ตั้งแต่มาถึงงานก็หลบอยู่ข้างหลังศาลาคอยดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ พอถึงเวลาสวดพระอภิธรรมฉันถึงได้แอบมานั่งตรงที่นั่งแถวหลังสุดกับคนในบ้าน
"เดี๋ยวคุณแม็คก็ได้หาเรื่องว่าคุณข้าวไม่ช่วยงานนะคะ"
"ไม่หาเรื่องหรอกค่ะ เขาจะสบายใจมากกว่าที่ไม่เจอหน้าข้าว"
"เฮ้อ! ไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์วันต่อ ๆ ไปเลยค่ะคุณข้าว ไม่มีคุณท่านอยู่แล้วใครจะปกป้องคุณข้าว จะให้พี่ ป้าสุ ไอ้นุ้ยเหรอ เฮ้อ! จะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้รบกับคุณแม็คกัน" พี่ขวัญใจบ่นออกมาเบา ๆ ส่วนฉันก็ได้แต่ยิ้มอ่อน
"ฟังพระสวดดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณป้ารู้เข้าจะไม่สบายใจเอานะคะ" เพราะเราสองคนกำลังพูดถึงเรื่องที่คุณป้ากังวลที่สุดในงานศพของท่านเอง เดี๋ยวคนที่จากไปท่านจะไม่สบายใจเอา
ฉันหันกลับไปสนใจแค่สิ่งที่อยู่ข้างหน้า สนใจแค่ผู้มีพระคุณที่ท่านนอนหลับอยู่ในโลงสี่เหลี่ยม ท่านจากไปแล้ว จากไปโดยที่ฉันยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณของท่านเลย
หลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จฉันก็เลี่ยงไปจัดการสั่งงานสำหรับวันพรุ่งนี้ กว่าจะเสร็จแขกในงานก็กลับกันหมดแล้ว เหลือแค่ฉันกับพี่เชนที่อยู่ช่วยงาน พอจัดการอะไรต่าง ๆ เสร็จถึงได้กลับบ้าน
"ขอบคุณพี่เชนมากเลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน ข้าวทำให้พี่เชนต้องกลับดึกเลย"
"ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยจ้ะ พี่ยินดีบริการน้องสาวคนนี้เต็มที่ข้าวก็รู้"
"ยังไงก็ต้องขอบคุณค่ะ เกรงใจจะแย่เพราะที่จริงข้าวกลับแท็กซี่เองก็ได้"
"ใครจะปล่อยให้คนสวยกลับแท็กซี่ได้ลงคอ กลับบ้านกันดีกว่าข้าวจะได้พักผ่อนด้วย"
"ค่ะ"
ฉันเดินไปขึ้นรถกลับบ้านกับพี่เชน พี่เชนเป็นพี่ชายข้างบ้านเรารู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว ไปไหนไปกันคบกันแบบพี่ชายน้องสาวที่บริสุทธิ์ใจต่อกันจริง ๆ เวลาลำบากก็มีพี่เชนนี่แหละที่คอยอยู่ข้าง ๆ โดยเฉพาะช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่คุณป้าทรุดหนักฉันก็เหมือนโดนปล่อยให้เคว้งคว้างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่รู้จะร้องไห้กับใครหรือปรึกษาใคร ก็มีพี่เชนนี่ล่ะค่ะที่อยู่ข้าง ๆ คอยปลอบใจทุกครั้ง
พี่เชนมาส่งฉันที่บ้าน พอพี่เขากลับออกไปฉันก็เดินเข้าบ้าน บรรยากาศเงียบเหมือนทุกวันแต่ในความเงียบมันเหมือนมีรังสีชั่วร้ายอะไรบางอย่างแผ่ออกมา
"คุณข้าวคะ"
"อ้าวพี่ขวัญใจ ยังไม่อาบน้ำพักผ่อนอีกเหรอคะ" นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนี่แต่พี่ขวัญใจยังอยู่ชุดเดิมอยู่เลย
"คือ...คุณข้าวไปที่ห้องรับแขกดีกว่าค่ะ" เฮ้อ! เห็นหน้าพี่ขวัญใจฉันก็รู้แล้วว่าจะเจออะไร
พอมาถึงห้องรับแขกคนที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงให้ไม่ต้องเจอหน้ามากที่สุดก็นั่งทำหน้าทะมึงอยู่กลางโซฟาสีทองสุดหรูขนาดใหญ่ ท่านั่งประจำตัวของเขาคือการนั่งไขว้ห้างกอดอกนิด ๆ วางท่าเหมือนนายแบบที่คีพลุคเป็นเจ้าชาย แต่เชื่อเถอะท่านี้สรรค์สร้างเองไม่มีปั้นแต่งหรอก เห็นนั่งแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว ท่านั่งน่าหมั่นไส้เกินมนุษย์
"เห็นพี่ขวัญใจบอกว่าคุณมีเรื่องจะคุยด้วย" พอมาถึงฉันก็ส่งสายตาให้พี่ขวัญใจออกไปแล้วก็เอ่ยปากถามเขาทั้งที่ยังยืนอยู่
"ทักทายกันแบบนี้? นี่เหรอที่คุณแม่ฉันบอกว่าสอนมาดี สอนเองกับมือ แต่ทำไมพอคุณแม่ไม่อยู่ถึงได้..." เขาหยุดพูดแล้วก็มองฉันหัวจรดเท้า จากนั้นก็ไล่จากเท้าขึ้นมาบนหัวก่อนที่จะเหยียดยิ้มมุมปาก
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะคุยกับดิฉันคะ" อยากให้ไหว้ก็ไหว้ แต่ช่วยมีสมองคิดด้วยว่าคนที่อายุน้อยกว่าเขาเจอหน้าแล้วไม่ไหว้ตัวเองมันเพราะอะไร ทำตัวไม่น่าเคารพเองรึเปล่า
"เสแสร้ง" เขามองฉันไหว้แล้วก็เบ้ปากใส่ เออแล้วไงก็เสแสร้งจริง ๆ ไม่ได้อยากไหว้เลยสักนิด แต่ที่ต้องไหว้เพราะเจ้าที่มันแรง ไม่ทำตามแล้วมันจะอาละวาดฟาดงวงฟาดงาน่ารำคาญ
"ตามที่จะสะดวกคิดค่ะ มีอะไรคะไม่มีจะได้ไปนอน ง่วง"
"ปากดี"
"ค่ะ ธุระล่ะคะ จะพูดไหม?"
"ข้าวแกง!" ฮึ! โกรธล่ะสิที่ฉันกล้าต่อปากต่อคำ เมื่อก่อนพูดอะไรฉันเคยเถียงที่ไหน ขนาดด่าว่าฉันเป็นขยะฉันยังไม่เคยต่อปากต่อคำหรือส่งสายตาไม่พอใจใส่เขาเลยสักครั้ง
"คะ?"
"อย่ามาปากเก่งกับฉัน" ฮึ! คนเกรี้ยวกราดอย่างเขาต่อให้ตอนนี้นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าก็โมโหให้กับมารยาทไทยของฉันได้อยู่ดีนั่นแหละ
"ธุระล่ะคะ หรือว่าที่จริงไม่มีอะไรจะคุย อยากเห็นหน้าฉันเหรอคะ"
"ฮึ! ไปขนข้าวของ ๆ เธอกลับไปอยู่ที่เดิมซะยัยก้นครัว!" อ้อเรียกมาบอกเรื่องนี้นี่เอง ฉันได้แต่กรอกตามองบนเพราะรำคาญเขา
"ไม่เก็บค่ะ ไม่ย้ายห้องด้วย"
"เธอไม่มีสิทธิ์นอนที่ตึกใหญ่ อย่าเก่งให้มันมากข้าวแกง เพราะเธอไม่มีคุณแม่คุ้มกะลาหัวแล้วจำใส่สมองไว้"
"จำได้ค่ะ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องใช้สิทธิ์ของฉันคุ้มกะลาหัวตัวเอง"
"ฮึ! สิทธิ์อะไร? อ้อสิทธิ์เมียของฉันใช่ไหม เกือบลืมไปเลยว่ะว่าฉันมีเมียอยู่ทั้งคน เมียที่ไต่เต้าจากขยะมาเป็นเพชรด้วยการเอาของสกปรกให้ฉันกินเพื่อจับทำผัว!"
บทล่าสุด
#43 บทที่ 43 EP : 43 ... END
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#42 บทที่ 42 EP : 42
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#41 บทที่ 41 EP : 41
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#40 บทที่ 40 EP : 40
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#39 บทที่ 39 EP : 39
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#38 บทที่ 38 EP : 38
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#37 บทที่ 37 EP : 37
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#36 บทที่ 36 EP : 36
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#35 บทที่ 35 EP : 35
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025#34 บทที่ 34 EP : 34
อัปเดตล่าสุด: 11/18/2025
คุณอาจชอบ 😍
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
แอบรักรุ่นพี่ตัวร้าย
ภารกิจให้เป็นคู่เดทเป็นเวลา1อาทิตย์...
ภรรยารสโอชา
แต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งบ้าคลั่งยิ่งขึ้นก็คือเมื่อวานนี้เธอได้เห็นพี่ชายของสามีกำลังอาบน้ำโดยบังเอิญ
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก
เสพติดเพื่อนของพ่อ
หนังสือเล่มนี้มีฉากอีโรติกมากมาย รวมถึงการเล่นหายใจ การเล่นเชือก การเล่นในขณะหลับ และการเล่นแบบดิบๆ
หนังสือเล่มนี้จัดอยู่ในประเภท 18+ และเต็มไปด้วยเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่
หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมหนังสือที่มีเนื้อหาทางเพศที่รุนแรงที่จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและต้องการใช้เครื่องสั่น
สนุกกันนะสาวๆ และอย่าลืมแสดงความคิดเห็นของคุณด้วย
จุ๊บๆ
"เธอจะดูดควยของฉันเหมือนเด็กดีที่เธอเป็น โอเคไหม?"
หลังจากที่ถูกกลั่นแกล้งมาหลายปีและต้องใช้ชีวิตแบบทอมบอย พ่อของเจมี่ส่งเธอไปทำงานที่ฟาร์มกับชายชรา แต่ชายชราคนนี้กลับเป็นคนที่เธอฝันถึงมากที่สุด
ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเธอและทำให้เธอเผยด้านผู้หญิงออกมา เธอตกหลุมรักแฮงค์ แต่เมื่อมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาในภาพ เจมี่จะมีแรงผลักดันพอที่จะต่อสู้เพื่อชายคนนี้ที่ทำให้ชีวิตของเธอมีสีสันและมีความหมายในการดำเนินชีวิตต่อไปหรือไม่?
อัลฟ่าผู้ชั่วร้าย
"ฉันอธิบายได้นะ-"
เขาตัดบทฉัน
"เธอเป็นแมวน้อยที่แย่มาก เธอไม่รู้เลยว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง"
มือของเขาบีบคอฉันแน่นจนฉันหายใจไม่ออก
"ถอดเสื้อผ้า"
คำนี้ทำให้ฉันตื่นจากความช็อก "อะ-"
"ฉันจะนับถึง 3 ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก - 1"
นี่มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ
"2"
ฉันคิดว่าเขาเป็นเกย์
"3"
เอมาร่า หญิงสาวอายุ 21 ปี ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหางานในบริษัทข้ามชาติ
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เจ้านายของเธอหล่อมาก
เขาไม่ใช่มนุษย์
เธอคือคู่ชีวิตของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมาป่าตัวใหญ่เจอคู่ชีวิตของเขา?
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง?
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผย? ใครจะจม? ใครจะรอด?
มีภาคต่อในหนังสือเล่มนี้!
ยอมจำนนต่อแฝดสามมาเฟีย
"เธอเป็นของพวกเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเห็นเธอแล้ว"
"ไม่รู้ว่าเธอจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะรู้ตัวว่าเธอเป็นของพวกเรา" หนึ่งในแฝดสามพูดพร้อมกับกระชากหัวฉันให้เงยขึ้นมาสบตาเขา
"เธอเป็นของพวกเราให้เอา, ให้รัก, ให้ครอบครองและใช้ในทางที่เราต้องการ ใช่ไหมที่รัก?" แฝดคนที่สองเสริม
"ค...ค่ะ, คุณ" ฉันหายใจออกมาเบาๆ
"ตอนนี้เป็นเด็กดีแล้วแยกขาออกสิ มาดูกันว่าแค่คำพูดของพวกเราทำให้เธอเป็นยังไงบ้าง" แฝดคนที่สามพูดเสริม
คามิลล่าได้เห็นการฆาตกรรมที่ทำโดยชายสวมหน้ากากและโชคดีที่หนีรอดมาได้ ในระหว่างที่เธอกำลังตามหาพ่อที่หายตัวไป เธอได้พบกับแฝดสามมาเฟียที่อันตรายที่สุดในโลก ซึ่งเป็นฆาตกรที่เธอเคยเจอมาก่อน แต่เธอไม่รู้...
เมื่อความจริงถูกเปิดเผย เธอถูกพาตัวไปยังคลับ BDSM ของแฝดสาม คามิลล่าไม่มีทางหนี แฝดสามมาเฟียจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเป็นทาสของพวกเขา
พวกเขายินดีที่จะแบ่งปันเธอ แต่เธอจะยอมจำนนต่อพวกเขาทั้งสามคนหรือไม่?
So Cool ขอรักคูล ๆ มาเปิดประตูหัวใจ
จูน : คนอย่างไอ้พี่ซันเหรอคะ? เป็นผู้ชายที่เกิดมามีหน้าที่แค่อย่างเดียวจริง ๆ คือการสร้างความสุขให้กับผู้หญิงบนเตียงเท่านั้น อย่าเผลอเอามาเป็นพ่อพันธ์เชียวนะสงสารอนาคตของชาติ!
ทาสราคะองค์ชายใบ้
อ้อนรักจอมวายร้าย
'ทำไมเขาต้องดีกับผู้หญิงทุกคนแต่ร้ายกับเธอ เธอไปทำอะไรให้เขาถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก'
การเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่มิอาจได้ครอบครองหัวใจของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำให้อ้อนรัก โอลิวิเยร์ อยู่อย่างเจ็บปวดเสมอมา แต่กระนั้นก็ยังหวังลึกๆ ว่าสักวันเขาจะมองเห็นค่า หากแต่เซซาเร รุกฆาต โอลิวิเยร์ กลับดับฝันทุกอย่างด้วยการแสดงท่าทีรังเกียจและชิงชังอย่างเปิดเผย ต่อให้ ‘กาฝาก’ อย่างเธอขยับจากฐานะหลานสาวนอกไส้ที่เขาไม่เคยเหลือบแลมาเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเขาก็ไม่คิดจะแยแสอยู่ดี
การถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงจืดชืดเป็นแม่ชีทำให้เซซาเรออกอาการต่อต้าน และพร้อมที่จะผลักไสเธอออกไปจากชีวิตทุกขณะจิต หากแต่เมื่อแม่ ‘เมียตีทะเบียน’ หยามน้ำหน้าด้วยการเป็นฝ่ายขอหย่า จอมวายร้ายก็แทบจะอาละวาดลั่น และประกาศว่าเธอจะไสหัวไปไหนก็เชิญ แต่ต้องหลังจากที่ทำ ‘หน้าที่เมีย’ สมบูรณ์แล้วเท่านั้น!
โอกาสครั้งที่สองของมหาเศรษฐี: ทวงคืนรัก
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในวันที่ฉันเห็นสามีที่ปกติแล้วสุขุมและสงบของฉัน จับ "น้องสาว" ของเขาไว้ที่มุมกำแพงด้วยความโกรธและตะโกนว่า "เธอเลือกที่จะแต่งงานกับคนอื่นในตอนนั้น เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะมาขออะไรจากฉัน?!"
ตอนนั้นเองที่ฉันได้รู้ว่าเขาสามารถรักใครสักคนได้อย่างลึกซึ้งจนถึงขั้นทำให้เขาคลั่งได้
เมื่อเข้าใจสถานะของตัวเอง ฉันจึงหย่ากับเขาอย่างเงียบๆ และหายไปจากชีวิตของเขา
ทุกคนพูดว่าคริสโตเฟอร์ วาเลนซ์เสียสติไปแล้ว พยายามหาภรรยาเก่าที่ดูเหมือนไม่สำคัญของเขาอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อเขาเห็นโฮป รอยสตันอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น มันเหมือนกับว่ามีรูถูกฉีกผ่านหัวใจของเขา ทำให้เขาอยากฆ่าตัวเองในอดีต
"โฮป ได้โปรดกลับมาหาฉันเถอะ"
ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ คริสโตเฟอร์คุกเข่าลงกับพื้น อ้อนวอนอย่างน่าสงสาร โฮปจึงได้รู้ว่าข่าวลือทั้งหมดเป็นความจริง
เขาเสียสติไปจริงๆ
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าติดตามมากๆ จนฉันไม่สามารถวางมันลงได้เป็นเวลาสามวันสามคืน มันน่าตื่นเต้นและต้องอ่านจริงๆ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหามันได้ในช่องค้นหา)













