
บทนำ
บท 1
‘คุณจะปกป้องหนูใช่ไหมคะ’
‘ตราบใดที่เธอไม่สร้างปัญหา... ใช่ ฉันจะปกป้องเธอ’
ประโยคเหล่านั้นดังก้องอยู่ในหัวใจดวงน้อยราวกับจะเย้ยหยัน ใจของมารินรู้ดีว่าพันธะสัญญาระหว่างเธอกับชาวีกำลังจะจบลงเพราะปัญหาใหญ่ที่เข้ามา
เธอท้อง...
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรไม่รู้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
มันผลักดันให้มารินนั่งกระสับกระส่ายอยู่ในบ้านพักส่วนตัวอันทันสมัยที่คนอย่างเธอไม่มีปัญญาครอบครอง โดยมีแท่งตรวจครรภ์สามแท่งวางอยู่บนโต๊ะ ยืนยันความจริงอันน่าหวั่นใจ
ชั่วชีวิต... สิ่งที่มารินไม่ปรารถนาจะได้พบเจอ คือความยุ่งยากที่นำพาให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย แต่ในบางครั้งเธอกลับวิ่งเข้าใส่ปัญหา ทั้งโดยบังเอิญและตั้งใจ
สองปีก่อน
มารินในวัยสิบเก้าปีต้องนั่งตัวสั่นงันงกหลังประตูตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in closet ราวกับว่านั่นคือที่หลบซ่อนสุดท้ายในโลกที่กำลังจะพังทลาย เหงื่อกาฬไหลจนชุ่ม ดวงตาเบิกโพลงด้วยหวาดผวาสุดหัวใจ
หากรู้สักนิดว่าความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม มารินคงไม่ยอมก้าวเข้าสู่สถานที่ที่จะกลืนกินทั้งชีวิตและตัวตนของเธอไปจนหมดอย่างบ้านวิธวินทร์
แต่เพราะ ‘เมริษา’ เพื่อนรักที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก ถึงขั้นคุกเข่าขอร้องทั้งน้ำตาให้มาทำธุระเป็นเพื่อน เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้ลง
ทั้งบ้านมืดสลัวในตอนที่ทั้งคู่เปิดเข้ามา
มารินเห็นผู้ชายที่น่าจะเป็นเจ้าของบ้านนั่งดื่มอยู่ที่มุมบาร์ซึ่งมีเพียงแสงนวลของโคมระย้า เขาไม่พูดอะไร เพียงเดินไปกดคำสั่งปิดประตูที่แผงควบคุมตรงผนังใกล้บาร์ พอมองให้ชัดจึงได้รู้ว่าเขาคือ ‘ชินดนัย’ หนึ่งในคนสำคัญของตระกูลวิธวินทร์
มารินหันไปมองประตูที่ปิดลงด้วยใจระทึก พลันรู้สึกเหมือนกับว่า พวกเธอถูกขังอยู่ในกรง
“โฟมนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้แป๊ปนึงนะ” เมริษาชี้ไปที่โซฟาของห้องรับแขก ก่อนจะกดสวิตช์ไฟที่เสาใกล้ ๆ หล่อนถอดเสื้อนอกของตนไปแขวนตรงราวไม่ไกลกัน รองเท้าก็ถอดวางไว้บนตู้
หล่อนรู้มุมต่าง ๆ ของบ้านราวกับเป็นบ้านตัวเอง มารินเดาว่าเพื่อนรักคงเคยมาแล้วหลายหน
เมริษาหันมาบอกอีก “เดี๋ยวฉันมา ฉันเข้าไปคุยกับเขาไม่นานหรอก”
มารินรู้สึกว่าชายคนนี้ไม่น่าไว้วางใจ คิดว่าเมริษาเองก็รู้สึกเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่คะยั้นคะยอให้เธอมาด้วยกัน แต่ในเมื่อหล่อนเลือกที่จะเดินหน้า มารินจึงทำได้เพียงแค่รออย่างมีสติและควรสำรวจทางหนีทีไล่เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน
“ระวังตัวด้วยนะ”
เมริษาพยักหน้ารับคำ ใจลึก ๆ หล่อนกลัวจนแทบบ้า แต่เพื่ออนาคตที่วาดฝันเอาไว้ หล่อนจึงเดินตามชินดนัยขึ้นไปคุยบนห้องทำงานชั้นสอง โดยไม่รู้เลยว่า หล่อน... จะไม่มีวันได้กลับออกมา
เพียงไม่นาน มารินก็ได้ยินทั้งคู่โต้เถียงกัน จับใจความได้เพียงว่ามีบางอย่างที่เมริษาซ่อนไว้ และชินดนัยจะไม่มีวันให้หล่อน ‘Blackmail’ เขาได้อีกต่อไป
เท่านั้น... มารินจึงรู้ตัวว่าถูกเพื่อนที่ไว้ใจดึงลงมาอยู่ในจุดที่เธอไม่อยากจะยืน
หญิงสาวไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการข่มขู่นี้ จึงหมายใจจะหนีกลับบ้านโดยไม่ให้เพื่อนรู้ ทว่าเสียงกรีดร้องอย่างสิ้นสติของเมริษาพาให้เธอต้องวิ่งขึ้นไปดูเพื่อนอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
ก่อนที่ใจดวงนั้นจะเต้นรัวอยู่ในอกเมื่อเห็นเจ้าของบ้านที่เมามายใช้มีดไล่ฟันเมริษาอยู่
พอเขาหันมาเห็นมารินที่ปากประตู ก็พุ่งเข้ามาหมายจะจัดการ มารินกระโดดโหยง หลบได้หวุดหวิด แต่เลือดในกายเย็นเฉียบเพราะความหวาดกลัว
ชินดนัยตวัดสายตามามองเธอ หัวเราะคลั่งแค้น มือข้างที่ถือมีดเงื้อขึ้นหมายเอาชีวิตของมาริน ในชั่ววินาทีนั้นทั้งร่างก็วืดหลบได้อีกครั้งเพราะเมริษาฉกชิงความไวจากปีศาจพุ่งเข้ามาลากเธอออกไปให้พ้นวงแขนของมัน
“แม่งเอ๊ย อีกะหรี่!!!” ชินดนัยสบถด้วยความโมโห
“หนีเร็วโฟม!” เมริษาตะโกนลั่น
ชายหนุ่มรีบขว้างมีดตามหลัง แต่ไม่โดนใครทั้งนั้น
ขณะที่สองสาวแตกหนีไปตามห้องต่าง ๆ ของชั้นสอง กลายเป็นหนูตัวเล็กที่ติดอยู่ในกรงสิงโต... เพราะประตูและหน้าต่างทุกบานถูกควบคุมด้วยระบบสั่งการ biometric ซึ่งมีเพียงคนบ้านวิธวินทร์เท่านั้นที่เปิดได้
มารินตะเกียกตะกายเข้ามาหลบในตู้เสื้อผ้าในห้องห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าบ้าน ใกล้เข้ามา... ใกล้เข้ามา... จนต้องกลั้นหายใจเอาไว้ ราวกับกลัวว่าเขาจะรับรู้ที่ซ่อนของตนจากลมหายใจ
“กรี๊ด!!! ไม่นะ ไม่!”
เสียงเมริษากรีดร้อง
ภาพที่ปรากฏในครรลองสายตาของมาริน ผ่านรอยแยกของประตูตู้ คือร่างของหนูตัวแรกที่ไม่ไวพอ
เมริษาถูกชินดนัยลากออกมาจากใต้เตียง ก่อนที่เขาจะขึ้นคร่อม ชกเข้าที่ใบหน้าของหล่อนหลายครั้ง ทุกครั้งที่เสียงกำปั้นกระทบใบหน้าหล่อน ร่างกายของมารินจะสะดุ้งเฮือก จนเธอต้องรีบใช้มือปิดปากตัวเองไว้แน่น พร้อมเกร็งไว้ทั้งตัวให้นิ่งที่สุด
นิ่งเป็นหิน
นิ่ง... และยอมให้คลื่นร้ายซัดผ่านตัวเธอไปเหมือนทุกครั้ง แล้วเธอก็จะรอด
แต่ดูเหมือนว่าคลื่นร้ายลูกนี้จะใหญ่เกินกว่าที่ก้อนหินก้อนเล็กอย่างมารินจะทนไหว เธอเห็นเมริษาถูกบีบคอจนดวงตาเหลือกลาน เนื้อตัวของเพื่อนรักกระตุกเกร็งอยู่ในเงื้อมมือมัจจุราช
“มึงคิดว่ากูจะยอมเสียเงินให้มึงแลกกับหลักฐานพวกนั้นเหรอ อีกะหรี่ชั้นต่ำ!!!”
“อั่ก...”
“กูแค่หลอกมึงมาฆ่า แล้วจะฝังทุกอย่างที่มึงรู้ไปกับศพเน่า ๆ ของมึงไงล่ะ อีควาย!!!”
เมริษาจิกเล็บกับข้อมือเขา เลือดที่ไหลออกมาทั้งจากดวงตา จมูก และปากหาได้สร้างความตกใจให้ชินดนัย แววตาไร้ซึ่งความปรานีบีบให้หล่อนยอมรับความตายโดยไม่มีเงื่อนไข
ใจของมารินหล่นหาย เหลือเพียงความหวาดกลัวเท่านั้นที่ยังเต้นอยู่ในอก
หากแม้ความกลัวรบรากับความกล้าเพียงน้อยนิดในใจ แต่มารินก็ไม่อาจเห็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาต้องหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา จึงผลักประตูแล้วพุ่งใส่ปีศาจร้ายจนมันล้มไปพร้อมกับปล่อยมือจากเมริษา
มารินช่วงชิงเวลาเพียงเสี้ยวนาทีที่มันเพลี่ยงพล้ำ เข้าปลุกประคองเพื่อนรักขึ้นมา
“เม เม ฮึก... หนีเร็ว เม”
“...”
“เม ตื่นสิเม เม!”
เปล่าประโยชน์เสียแล้ว...
เมริษาสิ้นใจไปก่อนเพียงเสี้ยววินาที และตอนนี้มารินก็กำลังกระโจนออกมาเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่เคยพบพาน
คนที่ไม่เคยเห็นใครถูกฆ่าอยากมีเวลาโศกเศร้าให้มากกว่านี้ แต่ก็รู้ในทันทีว่าต้องหนีให้พ้น ก่อนที่จะกลายเป็นศพต่อไป
ตอนนั้น ชินดนัยพุ่งเข้ามาจะคว้าข้อเท้าของเธอ มารินกรีดร้องลั่นและไวพอที่จะดึงเท้าหลบ
เธอตะเกียกตะกายสับเท้าลงบันไดมาชั้นล่าง มือถือร่วงกระแทกขั้นบันได แต่ไม่มีเวลาพอที่จะเก็บมันขึ้นมา ในหัวคิดหาทางออกแต่ลนลานไปหมด
ถ้าทุบหน้าต่างจะได้ไหมนะ?
หรือหากร้องให้คนช่วยจะได้ผลหรือเปล่า
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยหนูที!”
เสียงพูดกลั้วหัวเราะของเขาดังไล่หลัง “ร้องเข้าไปอีหนู บ้านนี้ไม่มีใครช่วยมึงได้หรอก”
“ช่วยด้วย ฮือ ๆ ช่วยหนูด้วย”
“...”
~ ~ ~ ฮือ ฮื้อ ฮือ
มารินได้ยินเสียงฮัมเพลงของชินดนัยดังแว่วในความเงียบงัน ฟังดูคล้ายเพลงแห่งชัยชนะในช่วงเวลาที่ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
จนเมื่อหญิงสาวเริ่มจวนตัว เพราะถูกไล่ต้อนให้ติดอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน ความสิ้นหวังก็จู่โจมหัวใจและพาให้แข้งขาอ่อนแรงจนทรุดลงกับพื้น
“อย่าทำอะไรหนูเลยนะ ฮือ ๆ หนูสาบาน หนูจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร หนูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนูมาที่นี่ทำไม โธ่!... ทำไมหนูถึงทำเรื่องโง่ ๆ อย่างนี้ลงไปได้ก็ไม่รู้”
หญิงสาวยกมือไหว้ ทั้งวอนขอ ทั้งให้คำสัญญาและก่นด่าตนเองด้วยความสับสนลนลาน หากเมื่อร่างทะมึนของชินดนัยคืบคลานเข้ามาอย่างใจเย็นราวกับอยากเล่นกับลมหายใจสุดท้ายของเหยื่อ มารินจึงใช้สองมือทุบประตูบานนั้นอย่างจนใจ
รู้ทั้งรู้ว่ามันไร้ผล
รู้ทั้งรู้ว่าตนจะต้องตายอยู่ตรงนี้ แต่เธอ... ยังไม่อยากตาย
และในนาทีที่เราเข้าใกล้ความตาย ความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จก็วิ่งเข้ามาในหัวใจสวนทางกับความหวังที่จะมีชีวิตรอดออกไป
น้องชายของเธอจะเป็นอย่างไรหากเธอต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ตรงนี้อย่างคนโง่
ตอนนั้นเอง...
ติ๊ด...
บางคนเปิดประตูจากภายนอก ยังไม่ทันที่มารินจะทันได้คิดสิ่งใดก็ถูกแขนแข็งแรงกระชากผ่านช่องว่าง ก่อนลากร่างเธอวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต พร้อมได้ยินเสียงคำรามร้องของชินดนัยดังออกมาจากบ้านหลังนั้น
ทว่า... ชินดนัยไม่ได้ตามมา ใช่ว่าเขาจะเลิกแล้วต่อกัน แต่เพราะรู้ดีว่ามันเกินกำลังของตนแล้วต่างหาก
บทล่าสุด
คุณอาจชอบ 😍
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ถูกสามีลึกลับตามใจ
เรจิน่าตกตะลึง เพราะดักลาสมีหน้าตาคล้ายกับสามีใหม่ของเธออย่างน่าประหลาดใจ!
หรือว่าเธอได้กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของซีอีโอโดยไม่รู้ตัวมาตลอดหลายเดือนนี้?
(อัพเดททุกวันพร้อมสามตอนใหม่)
หัวใจแปรผัน
เธอตัดสินใจหย่าร้าง แต่อเล็กซ์รู้สึกเสียใจอย่างมากกับการกระทำของเขาและพยายามอย่างยิ่งที่จะคืนดีกับเธอ ในขณะนั้น เซบขอเธอแต่งงาน พร้อมกับยื่นแหวนเพชรล้ำค่ามาให้และพูดว่า "แต่งงานกับฉันเถอะ ได้โปรด"
ด้วยความที่ลุงของอดีตสามีของเธอไล่ตามเธออย่างจริงจัง ชารอนจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ลำบากใจ เธอจะตัดสินใจอย่างไร?
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
หญิงสาวถูกทอดทิ้งจากหมู่บ้านเกษตรกร
เธอคิดว่าชีวิตคงจบลงเพียงเท่านี้ แต่ไม่คาดคิดว่าชีวิตเหมือนกระดานหมาก ที่ทุกตาล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สามีที่บ้าไม่เพียงกลับมาเป็นปกติ แต่ยังพาเธอสร้างฐานะจนร่ำรวย
มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ? ไม่แน่เสมอไป! แต่เมื่ออยู่ข้างซ่งชูซิน สามีที่รักและเอาใจเธอ ไต้เยวี่ยเหอกลับทำอะไรได้ตามใจปรารถนาเสมอ
ส่วนซ่งชูซิน ในฐานะดวงวิญญาณเดียวดายที่ข้ามมาจากอีกห้วงเวลาอันไกลโพ้น เขารู้สึกซาบซึ้งใจเสมอที่ได้พบกับไต้เยวี่ยเหอ ไม่ว่าโลกภายนอกจะวิพากษ์วิจารณ์หรือทำร้ายเธออย่างไร เขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างเธออย่างมั่นคง
ทรัพย์สินเงินทองนั้นมีค่าอะไร? ชื่อเสียงเลื่องลือมีความหมายอะไร? ชีวิตนี้ ข้าเพียงปรารถนา และอยากจะอยู่เคียงข้างเจ้า ร่วมต้อนรับแสงอรุณ ชมพระอาทิตย์อัสดง และในลานเล็กๆ ที่เราครอบครองร่วมกัน ปลูกดอกไม้ที่เจ้าชื่นชอบให้เต็มไปหมด...
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
สาวใช้ของมหาเศรษฐีผู้ครอบงำ
สาวใช้ไร้เดียงสาที่ทำงานให้กับพี่น้องมหาเศรษฐีสองคนที่มีอำนาจเหนือกว่า กำลังพยายามซ่อนตัวจากพวกเขา เพราะเธอได้ยินมาว่าถ้าสายตาอันหื่นกระหายของพวกเขาตกลงไปที่ผู้หญิงคนไหน พวกเขาจะทำให้เธอกลายเป็นทาสและครอบครองจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของเธอ
ถ้าวันหนึ่งเธอได้พบกับพวกเขาล่ะ? ใครจะจ้างเธอให้เป็นสาวใช้ส่วนตัว? ใครจะควบคุมร่างกายของเธอ? ใครจะเป็นเจ้าของหัวใจของเธอ? ใครที่เธอจะตกหลุมรัก? ใครที่เธอจะเกลียด?
“ได้โปรดอย่าลงโทษฉันเลยค่ะ คราวหน้าฉันจะมาตรงเวลา มันแค่-“
“ถ้าคราวหน้าพูดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉันจะปิดปากเธอด้วยของฉัน” ตาฉันเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“เธอเป็นของฉันนะ ลูกแมว” เขากระแทกเข้ามาในตัวฉันอย่างแรงและเร็ว ลึกขึ้นทุกครั้งที่เขาเคลื่อนตัว
“ฉัน...เป็น...ของคุณ...นายท่าน...” ฉันครางอย่างบ้าคลั่ง กำมือไว้ข้างหลัง
อัลฟ่าผู้ชั่วร้าย
"ฉันอธิบายได้นะ-"
เขาตัดบทฉัน
"เธอเป็นแมวน้อยที่แย่มาก เธอไม่รู้เลยว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง"
มือของเขาบีบคอฉันแน่นจนฉันหายใจไม่ออก
"ถอดเสื้อผ้า"
คำนี้ทำให้ฉันตื่นจากความช็อก "อะ-"
"ฉันจะนับถึง 3 ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก - 1"
นี่มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ
"2"
ฉันคิดว่าเขาเป็นเกย์
"3"
เอมาร่า หญิงสาวอายุ 21 ปี ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหางานในบริษัทข้ามชาติ
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เจ้านายของเธอหล่อมาก
เขาไม่ใช่มนุษย์
เธอคือคู่ชีวิตของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมาป่าตัวใหญ่เจอคู่ชีวิตของเขา?
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง?
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผย? ใครจะจม? ใครจะรอด?
มีภาคต่อในหนังสือเล่มนี้!
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
















