
บทนำ
หัวเข่าของเธออ่อนยวบ และหากไม่ติดว่ามือเขาจับสะโพกเธอไว้ เธอคงล้มลงไปแล้ว เขาแทรกเข่าเข้ามา ανάหว่างต้นขาของเธอเพื่อช่วยพยุงไว้อีกทาง เผื่อว่าเขาอยากจะใช้มือทำอย่างอื่น
“คุณต้องการอะไร” เธอถาม
ริมฝีปากของเขาไล้เคลียลำคอของเธอ และเธอครางแผ่วเมื่อความซ่านสยิวจากริมฝีปากของเขาแล่นปราดลงสู่หว่างขา
“ชื่อของเธอ” เขาเอ่ยเสียงพร่า “ชื่อจริงของเธอ”
“มันสำคัญยังไงเหรอคะ” เธอถาม ซึ่งเป็นการยืนยันเป็นครั้งแรกว่าลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง
เขาหัวเราะในลำคอชิดกับไหปลาร้าของเธอ “ฉันจะได้รู้ว่าต้องครางเรียกชื่อใคร...ตอนที่เข้าไปในตัวเธออีกครั้ง”
เจเนวีฟแพ้พนันที่เธอไม่มีปัญญาจ่าย เพื่อเป็นการต่อรอง เธอจึงตกลงที่จะหว่านล้อมผู้ชายคนไหนก็ได้ที่คู่พนันของเธอเลือกให้กลับบ้านไปกับเธอในคืนนั้น แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ในตอนที่เพื่อนของพี่สาวชี้ไปยังชายหนุ่มมาดขรึมที่นั่งอยู่คนเดียวที่บาร์ ก็คือผู้ชายคนนั้นจะไม่มีวันยอมจบกับเธอแค่คืนเดียว ไม่เลย มัตเตโอ อัคคาร์ดี ‘ดอน’ แห่งแก๊งที่ใหญ่ที่สุดแก๊งหนึ่งในนิวยอร์กซิตี้ ไม่เคยมีสัมพันธ์แค่คืนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ไม่ใช่กับเธอ
บท 1
เจนเนอวีฟใจหายวาบเมื่อมัลลอรีวางไพ่ในมือลงบนโต๊ะพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน เธอโทษว่าเป็นเพราะเหล้า...และเสียงแหลมเล็กที่น่ารำคาญจนทนไม่ไหวของมัลลอรีที่ผลักไสให้เธอเข้าร่วมวงโป๊กเกอร์นี้ ปกติแล้วเธอเป็นคนเล่นโป๊กเกอร์เก่ง แต่มัลลอรีกลับดูเหมือนจะเก่งระดับที่ใส่แว่นกันแดดเล่นในรายการแข่งทางทีวีได้เลย
“นั่นมันหมายความว่าไง” เจดาถาม พลางขยับสายสะพายสีขาวที่บอกให้ใครต่อใครรู้ว่าเธอคือว่าที่เจ้าสาว
“ก็หมายความว่า” มัลลอรีเริ่มต้น เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาเป็นประกาย “น้องสาวของเธอติดแหวนฉันวงหนึ่ง”
ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่รอบโต๊ะต่างสูดปากด้วยความตกใจ เจนก้มมองแหวนของแม่ เธอหมุนมันเล่นบนนิ้วนางข้างขวาที่ซึ่งมันสวมอยู่ทุกวันตลอดสิบสี่ปีที่ผ่านมา
“มัลลอรี เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันเป็นเจ้าสาวนะ แล้วเธอก็จะทำให้เจ้าสาวอารมณ์เสียไม่ได้ ใช่ไหม” เจดากระซิบ สายตามองสลับไปมาระหว่างผู้หญิงสองคนที่กำลังจ้องหน้ากันเขม็ง “แหวนวงนั้น...มันเป็น...”
เจนยกมือขึ้นเพื่อห้ามน้องสาวไม่ให้พูดมากเกินไป “สองเท่าหรือไม่ได้เลย” เจนท้า พลางยื่นสำรับไพ่ให้ลูซี เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเจดาเป็นคนสับไพ่
มัลลอรีพินิจพิเคราะห์เล็บที่ทำเฟรนช์แมนิเคียวมาอย่างสวยกริบด้วยสายตาพิจารณา “อืมม ไม่ดีกว่า” เธอประกาศด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันแบบที่ทำให้เจนอยากจะเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปบีบคอหล่อน
“เอาน่า มัลลอรี” ลูซีพูดขณะที่ยังคงสับไพ่อยู่ “เกมเมื่อกี้น่ะเป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุดของคืนนี้แล้วนะ!” ลูซีเหลือบมองเจดาซึ่งกำลังกอดอกและยื่นปากอย่างงอนๆ “โทษทีนะเจดา”
เจนหัวเราะเบาๆ ขณะกระดกเตกีลาอีกช็อต เธอไม่อยากจะพูดเลย แต่ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง นี่มันควรจะเป็นปาร์ตี้สละโสด พวกเธอควรจะอยู่ที่สตริปคลับสักแห่งในตัวเมือง โปรยแบงก์ดอลลาร์ และให้สตริปเปอร์เลียเหล้าวอดก้าจากสะดือ แต่พวกเธอกลับมาอยู่ที่บาร์หรูทางฝั่งตะวันออกตอนล่างซึ่งคลุ้งไปด้วยกลิ่นฮอร์โมนเพศชาย ถ้าเจนอยู่ใกล้กว่านี้ เธอคงจะวางแผนคืนนี้ด้วยตัวเอง และน้องสาวของเธอก็คงกำลังต่อสู้ปัดป้องฝูงผู้ชายแทนที่จะต้องมาต่อสู้กับความอยากหาว
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกวาดตามองไปรอบๆ บาร์เล็กๆ ที่มีวงดนตรีสี่ชิ้นกำลังบรรเลงเพลงอยู่มุมห้อง สถานที่แห่งนี้ดูดี มันให้ความรู้สึกเหมือนบาร์ลับในยุคเก่า ตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม มีบาร์ยาวเหยียด และบาร์เทนเดอร์ในชุดเนี้ยบกริบ แต่สำหรับปาร์ตี้สละโสดเนี่ยนะ แม้แต่ผู้ชายหลายคนที่ด้อมๆ มองๆ อยู่รอบๆ ก็ยังดูหดหู่ ส่วนใหญ่สักลายพร้อยและตัวใหญ่เป็นสองเท่าของพวกที่เธอเจอเป็นปกติในบอสตัน พวกเขาทุกคนสวมสูทสีเข้มและราวกับมีเมฆหมอกแห่งความโศกเศร้าถ่วงอยู่บนบ่า
เจนมองไปที่บาร์ ไปยังชายคนที่ดึงดูดความสนใจของเธอตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอก้าวเข้ามาพร้อมกับกลุ่มสาวๆ ที่ร่าเริงเกินเหตุ เขานั่งอยู่ที่บาร์คนเดียว ผู้ชายรอบๆ ตัวต่างเว้นที่ว่างให้เขากว้าง เขาดูเหมือนกับเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วไม่มีผิด มือขวายันศีรษะไว้ ในมือมีบุหรี่ที่จุดแล้วคาอยู่ใกล้เรือนผมสีน้ำตาลเข้มสวยงามซึ่งหวีเสยไปด้านหลัง เว้นแต่ปอยผมสองสามเส้นที่ปรกหน้าผากอย่างน่าหวาดเสียว มือซ้ายของเขาควงแก้วใส่ของเหลวสีอำพันที่พร่องไปแล้วครึ่งหนึ่งเล่น ท่าทางของเขาดูฟุบแฟบลงไปกับตัวเองราวกับว่าร่างกายทั้งหมดถูกพยุงไว้ด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว เมื่อมือข้างนั้นลดลงเพื่อให้เขาได้อัดควันบุหรี่เข้าปอด เธอก็แปลกใจที่ศีรษะของเขาไม่ฟาดลงกับเคาน์เตอร์บาร์ไม้ หัวใจของเธอเจ็บปวดไปกับเขาด้วย
"ใช่! ทำแบบในเรื่อง 'วิธีทิ้งผู้ชาย' ไง!" เรเชลเสนอ พลางขย่มตัวบนเก้าอี้อย่างตื่นเต้น ลูซีกับเจดาต้องวางมือบนไหล่ของเธอแต่ละข้างเพื่อพยายามทำให้สงบลง
เจนพยายามดึงสมาธิกลับมาที่บทสนทนาของพวกเธอ “เกิดอะไรขึ้น”
“อืมม ฉันชอบนะ” มัลลอรีพูด
“ชอบอะไร” เจนถาม
เจดาถอนหายใจ “เรเชลน่ะสิ ด้วยความที่เป็นคนชอบช่วยเหลืออยู่เสมอ ก็เลยเสนอให้มัลลอรีเลือกผู้ชายให้เธอหิ้วกลับบ้านสักคน”
"เหมือนเดิมพันในเรื่อง 'วิธีทิ้งหนุ่มให้เข็ดใน 10 วัน' ไง!" เรเชลย้ำ
เจนหัวเราะออกมา จนดึงดูดสายตาของผู้ชายหลายคนที่อยู่ใกล้ที่สุด “มุกนี้ใช้ได้”
“ฉันอยากทำ” มัลลอรีหัวเราะเบาๆ
“ไม่”
มัลลอรีโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วยื่นมือออกมา “งั้นก็เอาแหวนมา”
เจนขบกรามแน่นพอๆ กับหมัดที่กำแหวนของแม่ไว้ เธอต่อยหล่อนได้เลยนะ นี่คงไม่ใช่หน้าแรกที่จะมีรอยแหวนหมั้นของแม่ประทับอยู่
“ก็ได้” เธอเค้นเสียงลอดไรฟัน
เรเชลตบมืออย่างตื่นเต้น “ไหนดูซิ ดูซิ เราจะหาใครมา...”
“คนนั้น” มัลลอรีพูดโดยไม่ลังเล
ผู้หญิงรอบตัวเธอต่างสูดปากพร้อมกันขณะมองตามนิ้วที่เธอยกชี้ไป เจนมองข้ามไหล่ไปแล้วหัวใจของเธอก็กระตุกวูบ เธอกำลังชี้ไปที่ชายคนที่นั่งอยู่คนเดียวที่บาร์ คนที่เธอไม่อาจละสายตาไปได้ตลอดทั้งคืน เธอยกยิ้มที่มุมปาก แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติขณะหันกลับไปมองมัลลอรี
เจด้าหันขวับไปมองว่าที่พี่สะใภ้ด้วยแววตาวิตกกังวล “มัลลอรี ไม่นะ เลือกคนอื่นเถอะ ฉันไม่ยอมให้...”
“ตกลง” เจ็นพูดพลางโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจับมือที่มัลลอรียื่นออกมา เมื่อเธอจะดึงมือกลับ มัลลอรีก็กุมไว้แน่น
“แต่จำไว้นะ ถ้าเขาปฏิเสธเธอเมื่อไหร่ ฉันจะเอาแหวนของเธอ” มัลลอรีพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจแบบที่เธอเคยเห็นแต่บนโปสเตอร์หนังผีเท่านั้น
เจ็นสะบัดมือจนหลุดเป็นผลสำเร็จ เธอกระดกเหล้าช็อตสุดท้ายแล้วลุกขึ้นยืน เธอจัดชุดเดรสให้เข้าที่แล้วสะบัดผมสีดำยาวสลวยถึงเอวไปไว้ด้านหลัง เจด้าพรวดพราดลุกจากที่นั่งแล้วคว้าแขนเจ็นไว้ก่อนที่เธอจะทันขยับ
“พี่รู้ไหมว่านั่นใคร” เธอกระซิบ เสียงสั่นเครือด้วยความประหม่า
“ไม่รู้สิ เขาเป็นดาราหรือไง” เจ็นถามพลางเหลือบมองชายคนนั้นขณะที่เขาอัดควันบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งก่อนจะจี้มันลงในที่เขี่ยบุหรี่ เขาหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาอย่างถอนหายใจแล้วใช้ปากคาบบุหรี่มวนใหม่ออกมา เขาล้วงหาไฟแช็กในกระเป๋า นี่แหละคือโอกาสเหมาะ
“ใช่ เขาคือ...”
“ขอบใจจ้ะน้องรัก แต่พี่จัดการเองได้ อย่าบอกพี่เลย มันจะทำให้พี่ไขว้เขวเปล่าๆ พี่ต้องไปแล้ว” เจ็นพูดพลางแกะมือออกจากน้องสาว
เจ็นเดินตรงไปยังบาร์ ไม่สนใจเสียงพึมพำอย่างเป็นห่วงของผู้หญิงกลุ่มที่เธอทิ้งไว้เบื้องหลัง เป้าหมายของเธอยังคงง่วนอยู่กับการหาของในกระเป๋า เธอสาวเท้าเข้าไปใกล้เขาอย่างรวดเร็ว ไม่แยแสสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้ชายคนอื่นๆ ในห้อง เธอก้าวไปหยุดข้างเก้าอี้บาร์สตูลถัดจากชายปริศนาซึ่งดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตว่าเธอเข้ามาใกล้ เขาคำรามอย่างหงุดหงิดขณะล้วงมือลึกเข้าไปในกระเป๋ากางเกงข้างขวา
“วอดก้าโทนิคค่ะ” เธอบอกบาร์เทนเดอร์ที่ยืนรออยู่ เขาพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป เธอเหลือบมองชายด้านขวาซึ่งดูเหมือนจะเลิกหาไฟแช็กแล้ว แต่กลับเอาแต่จ้องมองเครื่องดื่มที่ตอนนี้ถูกกุมไว้แน่นในอุ้งมือทั้งสองข้าง “ต้องการไฟแช็กไหมคะ” เธอถามอย่างระมัดระวัง
ชายคนนั้นหลับตาลงแล้วเอนศีรษะไปด้านหลัง เผยให้เห็นลูกกระเดือกและเส้นเอ็นที่ลำคอซึ่งหายเข้าไปในเคราสีเข้ม
“ให้ตายสิ...แน่นอน” เขาคราง เสียงนั้นช่างใกล้เคียงกับเสียงครางในอารมณ์ใคร่จนทำเอาเธอเผลอหนีบขาเข้าหากันแน่น
เจ็นหยิบไฟแช็กออกจากกระเป๋าถือ เธอหยิบบุหรี่มวนนั้นขึ้นมาจากบาร์แล้วจุดไฟก่อนจะยื่นให้เขาโดยคีบไว้ระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วชี้ เธอเบ้หน้าเมื่อเห็นรอยลิปสติกสีแดงของตัวเองติดอยู่ตรงปลาย หัวของเขาโน้มมาข้างหน้าแล้วรับบุหรี่ไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาอัดควันเข้าปอดลึกๆ ยาวๆ เขาปล่อยมือลงบนบาร์เสียงดังตุ้บก่อนจะพ่นควันออกทางจมูก
เขาเปิดตาขึ้นแล้วจ้องมองบุหรี่ในมือ เขายกมันขึ้นแล้วหมุนดูเพื่อให้เห็นรอยริมฝีปากของเธอได้ทั้งหมด เธอแทบจะกลั้นหายใจเมื่อเขาเหลือบมองเธอจากด้านข้าง สายตาของเขาจับจ้องที่ริมฝีปากของเธอทันที เธอเผยอปากออกเล็กน้อยภายใต้การสำรวจของเขา ในที่สุดเธอก็ได้เห็นใบหน้าของเขาทั้งหมดและถึงกับตะลึงในความหล่อเหลาของชายผู้นี้
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนุ่มนวลกรอบด้วยขนตาสีดกหนา คั่นกลางด้วยสันจมูกคมที่ดูเหมือนจะเคยหักมาแล้วสองสามครั้ง ริมฝีปากของเขาหนาและดูนุ่มนวลขณะที่เขาใช้ฟันขบเม้มริมฝีปากล่าง เขาละสายตาไปก่อนที่ดวงตาของเขาจะเลื่อนขึ้นมาสบตากับเธอ ทำให้เธอไม่สามารถอ่านความรู้สึกใดๆ ที่ฉายออกมาได้
“คุณเป็นคนเล่นโป๊กเกอร์ที่ห่วยแตกมาก” ชายปริศนาเอ่ยขึ้นก่อนจะอัดควันอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเป็นโทนบาริโทนที่ทุ้มต่ำกว่าที่เธอคาดไว้และมีสำเนียงอิตาเลียนเจืออยู่เล็กน้อยราวกับว่าเขาเคยใช้เวลาอยู่ในประเทศนั้นมานาน เธอขยับไปนั่งบนเก้าอี้บาร์ให้เต็มตัวเพื่อไม่ให้ขาอ่อนแรงลงเพราะเสียงนั้น
“ว่าไงนะคะ”
เขาพยักพเยิดไปทางโต๊ะของกลุ่มผู้หญิงที่กำลังจ้องมองพวกเขาอย่างใกล้ชิด “ตอนที่ไพ่ในมือคุณไม่ดี สีหน้าคุณมันฟ้องหมดเลย”
“นี่คุณแอบมองอยู่เหรอคะ” เธอถาม หวังว่าน้ำเสียงจะฟังดูเหมือนกำลังอ่อย
“ตั้งแต่ตอนที่คุณเดินเข้ามาเลย” เขายอมรับ เขาจิบวิสกี้อึกสุดท้ายแล้วผิวปากเรียกบาร์เทนเดอร์ซึ่งรีบนำแก้วใหม่มาวางตรงหน้าเขาทันที “แล้ววอดก้าโทนิคของเธอไปไหน” ชายปริศนาคำราม บาร์เทนเดอร์อ้ำๆ อึ้งๆ แก้ตัวไปสองสามคำก่อนจะเสกเครื่องดื่มของเธอมาให้ราวกับเนรมิตขึ้นจากอากาศธาตุ
“ขอบคุณค่ะ” เธอพึมพำ
“แล้วคุณเสียอะไรไปล่ะ” เขาถาม
“ยังไม่เสียอะไรค่ะ” เธอตอบพลางจิบเครื่องดื่ม
ชายปริศนาหัวเราะในลำคอ “มัลลอรี คาร์ไมเคิล ไม่ปล่อยเหยื่อไปง่ายๆ หรอก คุณต้องติดค้างอะไรเธออยู่แน่ๆ”
“คุณรู้จักเธอด้วยเหรอคะ”
“โชคร้ายที่รู้จัก”
เจ็นเคาะนิ้วลงบนบาร์แล้วเหลือบมองข้ามไหล่ไป มัลลอรีเอนหลังพิงเก้าอี้ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสะใจ ส่วนเจด้าก็กำลังเคาะนิ้วของตัวเองอย่างกระวนกระวายขณะที่ราเชลคอยนวดไหล่ให้
“คุณ” ในที่สุดเจ็นก็ตอบ
ชายปริศนาพ่นลมหายใจทางจมูก “ผมทำไม”
เจ็นสูดหายใจเข้าลึก “สองเท่าหรือไม่ได้อะไรเลย ฉันกลับบ้านไปกับคุณ หรือไม่ก็เสียแหวนของแม่ไป”
บทล่าสุด
- #146 บทสรุปอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #145 บทหนึ่งร้อยสี่สิบห้าอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #144 บทหนึ่งร้อยสี่สิบสี่อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #143 บทหนึ่งร้อยสี่สิบสามอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #142 บทหนึ่งร้อยสี่สิบสองอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #141 บทหนึ่งร้อยสี่สิบหนึ่งอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #140 บทหนึ่งร้อยสี่สิบอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #139 บทหนึ่งร้อยสามสิบเก้าอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #138 บทหนึ่งร้อยสามสิบแปดอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #137 บทหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดอัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
คุณอาจชอบ 😍
โซ่สวาทร้อนรัก
“มันเรื่องของฉัน ตัวฉันของฉันนมก็นมของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ก็สิทธ์ของความเป็นผัวคนแรกของคุณไง นมคุณน่ะเป็นของผม ทั้งตัวคุณก็เป็นของผม...เข้าใจไหม? ”
คาเรน เซนโดริก อายุ 32 ปี
หนุ่มลูกครึ่งอเมริกา-อาหรับ ที่มีบุคลิกสุขุมเยือกเย็น เจ้าเล่ห์แสนกล และยังเป็นCEO บริษัทไอทีอินเตอร์เนชั่นกรุ๊ปชื่อดังในอเมริกาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ในแต่ละวันจะมีสาวๆมาคอยปนเปรอสวาทให้เขาในทุกค่ำคืน และในที่สุดเขาก็จัดการเหยื่อสาวผิดคน เพราะคิดว่าเธอคือคนที่ลูกน้องหามา จึงใช้เงินปิดปากเธอให้จบเรื่อง แต่ใครจะคิดว่าเขาต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง
ทับทิม รินลดา ชลวัตร อายุ 25 ปี
สาวแว่นช่างเพ้อ ที่มีความสามารถรอบด้าน พ่วงด้วยวาจาอันจัดจ้านไม่ยอมใคร จนถูกคัดเลือกให้ไปดูงานที่ดูไบ ต้องมาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสาวสวยสุดมั่นสำหรับงานครั้งนี้ แต่พอไปถึงเธอกลับถูกซาตาน พรากพรหมจรรย์ไปตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง และซาตานคนนั้นก็ดันเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องเจอกับเขาอีกครั้ง
ขย่มรักมาเฟีย
"ความทรงจำบ้าบออะไรของคุณ ฉันไม่อยากจะทบทวนอะไรทั้งนั้น ออกไปห่างๆฉันเลยนะ...อื้อ...ปล่อยฉันสิ ไอ้มาเฟียบ้า...จะมายุ่งกับฉันทำไมห้ะ!...."
"ไม่ยุ่งกับเมีย...แล้วจะให้ไปยุ่งกับหมาแมวที่ไหนล่ะหึ...ไม่ได้เจอตั้งนาน...คิดถึงดุ้นของผมไหม...อยากจะอม...อยากจะเลียเหมือนที่เคยทำหรือเปล่า...."
"ไม่....ถ้าคุณเสี้ยนมากนักก็ไปเอากับผู้หญิงของคุณสิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขาเต็มใจทำให้คุณแบบถึงอกถึงใจ คุณจะมาบีบบังคับฉันให้เสียแรงทำไม"
"ก็ผู้หญิงพวกนั้นมันไม่ตื่นเต้นเหมือนกับคุณนิ....ผมชอบใช้แรง...โดยเฉพาะกับคุณ....ชอบเยแรงๆ....ตอกแบบจุกๆ และที่สำคัญผมชอบตอนที่คุณครางเหมือนคนกำลังจะตายตอนที่ผมกำลังเอาคุณ"
"ใครโดนคุณเอาก็ต้องครางเหมือนจะตายกันทั้งนั้นแหละ ใหญ่เกินบ้านเกินเมืองซะขนาดนั้น ไปผู้หญิงเอาพวกนั้นไป อย่ามายุ่งกับฉัน...อื้อ...ปล่อยฉันสิ"
"ทำไมชอบไล่ให้ผมไปเอาคนอื่นนักหึ....ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะเอาคุณ....ผมชอบหอยฟิตๆของคุณมากกว่า...ผมหลง...ผมคลั่งไคล้...และผมก็อยากจะได้มันอีก...หลายๆครั้ง....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....จนกว่าหอยน้อยๆของคุณมันจะรับไม่ไหว...อืม....ไม่ได้เอามานานแล้ว....คุณให้ใครมาซ้ำรอยผมหรือเปล่า...."
เพอร์เฟค บาสทาร์ด
"ไปตายซะ, ไอ้ลูกหมา!" ฉันตะโกนกลับ, พยายามดิ้นให้หลุด
"พูดมา!" เขาคำราม, ใช้มือข้างหนึ่งจับคางของฉัน
"นายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงง่ายเหรอ?"
"งั้นก็ไม่ใช่สินะ?"
"ไปลงนรกซะ!"
"ดี, นั่นแหละที่ฉันอยากได้ยิน," เขาพูด, ยกเสื้อสีดำของฉันขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง, เผยให้เห็นหน้าอกของฉันและทำให้ร่างกายของฉันเต็มไปด้วยอะดรีนาลีน
"นายทำบ้าอะไรเนี่ย?" ฉันหอบหายใจขณะที่เขาจ้องมองหน้าอกของฉันด้วยรอยยิ้มพอใจ
เขาใช้นิ้วลูบไปที่รอยที่เขาทิ้งไว้ใต้หัวนมของฉัน
ไอ้สารเลวกำลังชื่นชมรอยที่เขาทำไว้บนตัวฉันเหรอ?
"เอาขามาพันรอบตัวฉัน," เขาสั่ง
เขาก้มลงพอที่จะเอาหน้าอกของฉันเข้าปาก, ดูดหัวนมอย่างแรง ฉันกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นเสียงครางขณะที่เขากัดลง, ทำให้ฉันแอ่นหน้าอกเข้าหาเขา
"ฉันจะปล่อยมือเธอ; อย่าคิดจะหยุดฉันเชียว"
ไอ้สารเลว, หยิ่งยโส, และน่าหลงใหลอย่างที่สุด, ชายประเภทที่เอลลี่สาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก แต่เมื่อพี่ชายของเพื่อนกลับมาที่เมือง, เธอก็พบว่าตัวเองใกล้จะยอมแพ้ต่อความปรารถนาที่รุนแรงที่สุดของเธอ
เธอน่ารำคาญ, ฉลาด, เซ็กซี่, บ้าสุดๆ, และเธอกำลังทำให้อีธาน มอร์แกนคลั่งไคล้เช่นกัน
สิ่งที่เริ่มต้นเป็นเกมง่ายๆ ตอนนี้กลับทรมานเขา เขาไม่สามารถเอาเธอออกจากหัวได้, แต่เขาจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในหัวใจของเขาอีก
แม้ว่าทั้งคู่จะต่อสู้สุดกำลังกับแรงดึงดูดที่ร้อนแรงนี้, พวกเขาจะสามารถต้านทานได้หรือไม่?
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
พันธะคู่ครองสามฝ่าย
แล้วฉันได้ยินเสียงประตูเปิดและแอ็กเซลเดินเข้ามา เขาดูโกรธอยู่ชั่วครู่ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ฉันเดาว่าการเห็นฉันมีความสุขจะทำให้เขารู้สึกอะไรบางอย่างเสมอ เขาเดินมาที่หัวของฉันและเริ่มจูบฉันขณะที่ลูบหัวนมของฉัน "ฉันจะเสร็จแล้ว" ฉันกระซิบเมื่อเขาดูดหัวนมของฉันอย่างแรงและช้า
"ใช่ครับ ลูน่าของผม ผมชอบเวลาที่คุณปล่อยทุกอย่างออกมาให้พวกเรา" เขาตอบ พาฉันไปยังจักรวาลใหม่ทั้งหมด
อาณาจักรหมาป่าถูกฉีกขาดมาหลายชั่วอายุคนเพราะความบาดหมางระหว่างกลุ่มดาร์คมูนและกลุ่มไนท์เชด ไม่มีใครรู้ว่ามันเริ่มต้นอย่างไร แต่ตราบใดที่ทุกคนจำได้ มักจะมีสงครามเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเสมอ
ท่ามกลางความวุ่นวาย เทพธิดาได้มอบคู่ครองให้ เป็นพรของหมาป่าทุกตัว
ยกเว้นว่าพวกเขาถูกสาปให้ต้องแบ่งปันกับศัตรู หรือมันเป็นคำสาปจริงๆ?
พี่น้องแฝดอัลฟ่าและอัลฟ่าเคนจะสามารถละทิ้งความเกลียดชังที่มีต่อกันมานานเพื่อครอบครองคู่ครองของพวกเขาได้หรือไม่?
พวกเขาจะทิ้งเธอให้เผชิญชะตากรรมของเธอเอง หรือออโรร่าจะสามารถรวมสองกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดเข้าด้วยกันทันเวลาที่จะเอาชนะความชั่วร้ายที่กำลังมาถึงได้หรือไม่?
ถูกสามีลึกลับตามใจ
เรจิน่าตกตะลึง เพราะดักลาสมีหน้าตาคล้ายกับสามีใหม่ของเธออย่างน่าประหลาดใจ!
หรือว่าเธอได้กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของซีอีโอโดยไม่รู้ตัวมาตลอดหลายเดือนนี้?
(อัพเดททุกวันพร้อมสามตอนใหม่)
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
หญิงสาวถูกทอดทิ้งจากหมู่บ้านเกษตรกร
เธอคิดว่าชีวิตคงจบลงเพียงเท่านี้ แต่ไม่คาดคิดว่าชีวิตเหมือนกระดานหมาก ที่ทุกตาล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สามีที่บ้าไม่เพียงกลับมาเป็นปกติ แต่ยังพาเธอสร้างฐานะจนร่ำรวย
มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ? ไม่แน่เสมอไป! แต่เมื่ออยู่ข้างซ่งชูซิน สามีที่รักและเอาใจเธอ ไต้เยวี่ยเหอกลับทำอะไรได้ตามใจปรารถนาเสมอ
ส่วนซ่งชูซิน ในฐานะดวงวิญญาณเดียวดายที่ข้ามมาจากอีกห้วงเวลาอันไกลโพ้น เขารู้สึกซาบซึ้งใจเสมอที่ได้พบกับไต้เยวี่ยเหอ ไม่ว่าโลกภายนอกจะวิพากษ์วิจารณ์หรือทำร้ายเธออย่างไร เขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างเธออย่างมั่นคง
ทรัพย์สินเงินทองนั้นมีค่าอะไร? ชื่อเสียงเลื่องลือมีความหมายอะไร? ชีวิตนี้ ข้าเพียงปรารถนา และอยากจะอยู่เคียงข้างเจ้า ร่วมต้อนรับแสงอรุณ ชมพระอาทิตย์อัสดง และในลานเล็กๆ ที่เราครอบครองร่วมกัน ปลูกดอกไม้ที่เจ้าชื่นชอบให้เต็มไปหมด...
สาวใช้ของมหาเศรษฐีผู้ครอบงำ
สาวใช้ไร้เดียงสาที่ทำงานให้กับพี่น้องมหาเศรษฐีสองคนที่มีอำนาจเหนือกว่า กำลังพยายามซ่อนตัวจากพวกเขา เพราะเธอได้ยินมาว่าถ้าสายตาอันหื่นกระหายของพวกเขาตกลงไปที่ผู้หญิงคนไหน พวกเขาจะทำให้เธอกลายเป็นทาสและครอบครองจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของเธอ
ถ้าวันหนึ่งเธอได้พบกับพวกเขาล่ะ? ใครจะจ้างเธอให้เป็นสาวใช้ส่วนตัว? ใครจะควบคุมร่างกายของเธอ? ใครจะเป็นเจ้าของหัวใจของเธอ? ใครที่เธอจะตกหลุมรัก? ใครที่เธอจะเกลียด?
“ได้โปรดอย่าลงโทษฉันเลยค่ะ คราวหน้าฉันจะมาตรงเวลา มันแค่-“
“ถ้าคราวหน้าพูดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉันจะปิดปากเธอด้วยของฉัน” ตาฉันเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“เธอเป็นของฉันนะ ลูกแมว” เขากระแทกเข้ามาในตัวฉันอย่างแรงและเร็ว ลึกขึ้นทุกครั้งที่เขาเคลื่อนตัว
“ฉัน...เป็น...ของคุณ...นายท่าน...” ฉันครางอย่างบ้าคลั่ง กำมือไว้ข้างหลัง
อัลฟ่าผู้ชั่วร้าย
"ฉันอธิบายได้นะ-"
เขาตัดบทฉัน
"เธอเป็นแมวน้อยที่แย่มาก เธอไม่รู้เลยว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง"
มือของเขาบีบคอฉันแน่นจนฉันหายใจไม่ออก
"ถอดเสื้อผ้า"
คำนี้ทำให้ฉันตื่นจากความช็อก "อะ-"
"ฉันจะนับถึง 3 ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก - 1"
นี่มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ
"2"
ฉันคิดว่าเขาเป็นเกย์
"3"
เอมาร่า หญิงสาวอายุ 21 ปี ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหางานในบริษัทข้ามชาติ
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เจ้านายของเธอหล่อมาก
เขาไม่ใช่มนุษย์
เธอคือคู่ชีวิตของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมาป่าตัวใหญ่เจอคู่ชีวิตของเขา?
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง?
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผย? ใครจะจม? ใครจะรอด?
มีภาคต่อในหนังสือเล่มนี้!
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
















