
บทนำ
ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
บท 1
“โอ๊ย เจ็บ ๆ ๆ นี่เรายังไม่ตายหรอกหรือ แต่ถ้าตายแล้วก็คงไม่เจ็บสิ แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน ไอ้หลังคาผุ ๆ พัง ๆ นี่มันอไรกัน”
เว่ยจื้อโหยวได้แต่พูดออกมาด้วยความไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าเธอกำลังนอนหลับอยู่บนเครื่องบินที่กำลังจะพาเธอไปเข้าร่วมทีมหน่วยลับหรอกหรือ แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้ แล้วที่นี่มันที่ไหนหลังคาผุ ๆ นี่มันจะพังลงมาทับเธอหรือไม่
แล้วทำไมข้างนอกนั่นเสียงดังอะไรกัน ยายป้าปากตลาดที่ไหนมาด่าทอทะเลาะกันเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้านแบบนี้ ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นเอาเสียเลย เว่ยจื้อโหย่วที่ยังปวดหัวและนอนซมด้วยพิษไข้ได้แต่คิดในใจ เมื่อไหร่คนพวกนั้นจะเลิกด่าทอกันเสียที
ด้านนอกบ้านนางเซียนซื่อกำลังก่นด่าบ้านรองด้วยถ้อยคำหยาบคาย นางก่นด่าลูกชายและลูกสะใภ้รวมถึงหลานสาวว่าเป็นพวกอกตัญญู เป็นหมาป่าตาขาวและเป็นพวกเนรคุณ
สาเหตุที่นางเซียนซื่อยืนก่นด่าบ้านรองอยู่เพราะลูกชายขัดขืนไม่ยอมให้นางขายเว่ยจื้อโหยวให้กับเศรษฐีเฒ่า ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่พอใจและบีบคั้นบ้านรองทุกวิถีทาง อ้างความจำเป็นในการใช้เงินก็แล้วอ้างถึงความกตัญญูที่พึงมีต่อบุพการีก็แล้ว แต่ลูกชายของนางอย่างเว่ยเจี้ยนป๋อก็หาได้ยินยอมไม่
แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายคนนี้ของนางหัวอ่อนและยอมลงให้นางมาตลอด นางเองไม่ได้มีใจรักใคร่บุตรชายคนนี้นักด้วยหมอดูได้ทำนายทายทักเอาไว้แล้วว่าหลานชายของนางจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ตระกูล ในตอนนั้นนางมีหลานชายเพียงคนเดียวคือบุตรชายของบุตรชายคนโต
ด้วยความเชื่อที่แสนจะงมงายของหมอดูปลอม ๆ ที่ทำมาหากินกับความเชื่อของชาวบ้าน หลังจากนั้นมานางก็ทุ่มเททุกอย่างให้กับครอบครัวของบุตรชายคนโตอย่างเว่ยอี้หานและมีสะใภ้ใหญ่อย่างนางเหอซื่อคอยยุแยงเป่าหูแม่สามีอยู่ทุกวัน
นางเหอซื่อมีชื่อเดิมว่าเหอเหมี่ยวแต่งงานกับเว่ยอี้หานมีลูกชาย 2 คน และมีลูกสาว 1 คน ลูกสาวนั้นอายุไล่เลี่ยกับเว่ยจื้อโหย่วคือ 17หนาว ส่วนลูกชายคนโตตอนนี้เรียนอยู่ที่สำนึกศึกษาในเมืองอายุ 14 หนาว ลูกชายอีกคนอายุ 7 หนาว
สะใภ้ใหญ่เป็นญาติทางฝั่งแม่ของนางเซียนซื่อ เมื่อแต่งเข้าบ้านเว่ยจึงทำให้ลูกสะใภ้และแม่สามีที่มีศักดิ์เป็นเครือญาติกันนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย
เว่ยเจี้ยนป๋อแต่งงานกับนางเหลียนซื่อหรือชื่อเดิมคือเหลียนเหมยชิง สำหรับสะใภ้รองผู้เฒ่าเว่ยเป็นคนสู่ขอให้มาตบแต่งกับเว่ยเจี้ยนป๋อในตอนที่ผู้เฒ่าเว่ยมีชีวิตอยู่ หลังจากเว่ยเจี้ยนป๋อแต่งงานได้สามปี ผู้เฒ่าเว่ยก็ป่วยและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เว่ยเจี้ยนป๋อและนางเหลียนซื่อมีลูกทั้งหมด 3 คน โดยมีเว่ยจื้อโหยวเป็นลูกสาวคนโต อายุ 17 หนาว น้องชาย อายุ 14 และ 7 หนาว
เว่ยจื้อโหยวที่ตอนนี้ปวดหัวมาก ตอนนี้จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกในตอนที่เธอกำลังพยายามจะลุกขึ้นจากเตียงไม้แข็ง ๆ นี่ กลับมีเรื่องราวต่าง ๆ เข้ามาในหัวของเธอจนเธอหมดสติไปอีกครั้ง
ส่วนคนด้านนอกนั้นยังถกเถียงกันและย่าใจร้ายก็ยังไม่หยุดด่า และยังมีลูกสะใภ้เป็นลูกคู่ เว่ยเจี้ยนป๋อมองหน้าผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดด้วยสายตาผิดหวังระคนเสียใจ
ส่วนพี่ชายอย่างเว่ยอี้หานนั้นยืนมองน้องชายและครอบครัวด้วยสายตาเกลียดชัง เขามีความเชื่อไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ หากว่าบุตรชายของเขาสอบได้เป็นขุนนางขึ้นมาเขาไม่ต้องการนับญาติกับน้องชายผู้นี้
“น้องรอง ข้าว่าเจ้ายอมยกลูกสาวของเจ้าแต่งเข้าบ้านเศรษฐีเถอะ นางจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดี เจ้าเองก็จะได้ชื่อว่าเป็นพ่อตาของเศรษฐีเชียวนะ” อี้หาน
“หากพี่ใหญ่ว่าการไปเป็นอนุของชายแก่คราวปู่มันดีนักหนาเหตุใดท่านไม่ให้ลูกสาวของท่านตบแต่งเข้าไปเสียล่ะขอรับ” เจี้ยนป๋อ
“นี่เจ้า.. เจ้ากล้าพูดจายอกย้อนข้าเช่นนั้นหรือ เดี๋ยวนี้เจ้าช่างกล้าหาญเสียจริง” อี้หานชี้หน้าด่าน้องชาย
“เจ้าลูกอกตัญญู ข้าอุ้มท้องเจ้ามาเลี้ยงเจ้ามาจนเติบใหญ่ เจ้ากลับเนรคุณ ตอนนี้ข้าแค่ขอให้เจ้ายกนางตัวไร้ค่าลูกสาวของเจ้าแต่งเข้าบ้านเศรษฐีเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเจ้ากลับไม่ยินยอม ข้าน่าจะเอาขี้เถ้าอุดปากเจ้าให้ตายเสียแต่ยังเด็ก ข้าไม่น่าเลี้ยงเจ้ามาจนเติบใหญ่ขนาดนี้ ข้าไม่น่าเลี้ยงเจ้ามาเพื่อให้มาเนรคุณข้าเอง ลูกอกตัญญู” นางเซียนซื่อชี้หน้าด่าลูกชาย
“ก็แค่ลูกสาวไร้ค่าของเจ้า จะเทียบอันใดกับลูกสาวของข้าได้กัน อย่าเอาลูกสาวของเจ้ามาเทียบกับหนิงอันลูกสาวข้า” สะใภ้ใหญ่
“ข้ายังยืนยันคำเดิม ข้าไม่มีวันส่งลูกสาวของข้าให้บ้านเศรษฐีเฒ่า ลูกสาวของข้าข้าจะหาสามีให้นางเอง ในเมื่อทั้งหมดเป็นปัญหาของพวกท่านที่รับปาก พวกท่านก็หาทางแก้ปัญหากันเอาเองเถิด ตลอดเวลาที่ข้าต้องอดทนให้พวกท่านรังแกลูกเมียข้ามันก็เกินพอแล้ว ข้าสู้อุตส่าห์ทำตามคำขอร้องของท่านพ่อที่สั่งเสียเอาไว้ให้พี่น้องรักและสามัคคีกันแต่พวกท่านไม่เคยจะใส่ใจ เอาแต่รังแก กดขี่ข่มเหงบ้านรองของข้า อาหารการกินบ้านรองก็ได้ส่วนแบ่งมาน้อยนิดทั้ง ๆ ที่งานในไร่ครอบครัวของข้าก็ทำมากที่สุด เงินก็เป็นข้าหามามากที่สุด แต่เงินเหล่านั้นไม่เคยตกถึงครอบครัวของข้า ตลอดเวลา 20 กว่าปีมานี้ ข้าถือว่าข้าได้กตัญญูต่อท่านแล้ว ท่านแม่ หากเป็นเช่นนี้ข้าขอแยกบ้านขอรับ” เจี้ยนป๋อพูดออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ
“แยกบ้าน เจ้ากล้าแยกบ้านหรือ อกตัญญู อกตัญญูแล้ว” นางเซียนซื่อทุบขาร้องโวยวายตีอกชกลม
“ท่านแม่ ในเมื่อน้องรองอยากแยกบ้านก็ให้แยกไปเถอะขอรับ แต่ข้าจะไม่แบ่งอะไรให้ทั้งนั้น อยากแยกบ้านเองก็ออกไปแต่ตัวเถอะ” อี้หาน
“ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ อีกหน่อยลูกใหญ่ก็จะเป็นขุนนางแล้ว ข้าไม่อยากให้มีปลิงมาเกาะคอยดูดเลือดเจ้าค่ะ” สะใภ้ใหญ่
“ได้ ในเมื่อเจ้าอยากแยกบ้านนักก็ออกไปแต่ตัวก็แล้วกัน เจ้าใหญ่ ไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมาจัดการให้เรียบร้อย” นางเซียนซื่อ
หลังจากนั้นไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านได้มาทำการแยกบ้านโดยมีเอกสารการแยกบ้านและตัดขาดสามฉบับ ฉบับแรกมอบให้กับนางเซียนซื่อ ฉบับที่สองมอบให้กับเจี้ยนกั๋ว และฉบับสุดท้ายหัวหน้าหมู่บ้านจะนำไปยื่นกับทางการถือเป็นการเสร็จสิ้นการแยกบ้าน
“พวกเจ้ารีบไสหัวออกไปจากบ้านของข้าและอย่าได้หยิบฉวยอะไรของข้าออกไปเด็กขาด สะใภ้ใหญ่คอยจับตาดูเอาไว้” นางเซียนซื่อ
“เจ้าค่ะท่านแม่”
“พวกเราไปเก็บของกันเถอะ อย่าเสียเวลาอีกเลย” เจี้ยนป๋อ
“เจ้าค่ะท่านพี่”
“ขอรับท่านพ่อ”
ครอบครัวของเจี้ยนป๋อเก็บข้าวของที่มีอยู่น้อยนิดใส่ห่อผ้าจากนั้นนางเหลียนซื่อก็ไปช่วยลูกสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่เก็บของ เจี้ยนป๋ออุ้มลูกสาวที่นอนหมดสติอยู่ขึ้นวางใส่รถเข็นอย่างเบามือ คนพวกนี้นับว่ามีจิตใจเหี้ยมโหดเพียงแค่ลูกสาวของเขาไม่ยินยอมไปเป็นอนุของตาเฒ่าบ้ากามผู้นั้น
เขาไม่คิดเลยว่าย่าแท้ ๆ จะทุบตีลูกสาวเขาปางตาย หากเขากลับมาไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวที่น่ารักแสนดีของเขาคงได้หมดลมหายใจไปแล้ว เพราะเหตุนี้ความอดทนที่เขามีถึงได้ขาดลง เขาทำใจอยู่ร่วมบ้านกับคนพวกนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว หากเขาไม่สามารถปกป้องลูกได้เขาก็ไม่สมควรจะเป็นพ่อใคร
“ท่านพ่อพวกเราจะไปอยู่ที่ไหนหรือขอรับ” เว่ยหย่งคัง
“พวกเราจะกลับไปอยู่บ้านเดิมของท่านแม่เจ้า กับท่านตาท่านยายของพวกเจ้า” เจี้ยนป๋อ
“ขอรับท่านพ่อ เช่นนั้นเราไปกันเถอะ จะได้รีบพาพี่ใหญ่ไปรักษา” เว่ยหย่งหมิง
ในตอนที่ครอบครัวของเจี้ยนป๋อกำลังเดินออกจากบ้านเว่ยมา อี้หานได้พูดขึ้นมาลอย ๆ ว่า
“อย่าคิดว่าแยกบ้านแล้วลูกสาวของเจ้าจะหนีพ้น คอยดูลูกสาวของเจ้าเอาไว้ให้ดี ท่านเศรษฐีไม่มีวันรามือ”
เจี้ยนป๋อเข็นรถที่มีร่างของลูกสาวนอนไม่ได้สติอยู่พาลูกเมียเดินออกจากหมู่บ้านลี่เจียงที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดไปด้วยใจที่แตกสลาย เขาผิดหวังกับมารดาผู้ให้กำเนิดและพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเอง
ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสงสารเว่ยเจี้ยนป๋อและครอบครัวแต่พวกเขาเป็นคนนอกไม่สามารถจะเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นได้ อีกอย่างแม่สามีกับลูกสะใภ้บ้านนี้นั้นล้วนร้ายกาจ เห็นแก่ตัวและปากร้ายจนไม่มีใครอยากจะข้องแวะด้วย
ใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามเดินเท้าจากหมู่บ้านลี่เจียงมาถึงหมู่บ้านต้าหลี่ที่เป็นบ้านเดิมของนางเหลียนซื่อ เมื่อมาถึงก็พบกับพี่สะใภ้ที่กำลังกวาดลานบ้านอยู่พอดี
นางซ่งซื่อหรือซ่งจินเหม่ยเห็นน้องสาวสามีพร้อมด้วยน้องเขยและหลาน ๆ เดินเข้ามาในบ้านและน้องเขยยังได้เข็นรถเข็นที่มีร่างของหลานสาวคนโตที่นอนหมดสติมาด้วย
ด้วยความตกใจนางจึงถามออกมาด้วยความร้อนรน
"น้องสาวน้องเขยเหตุใดจื้อโหย่วถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ เกิดอะไรขึ้น"
“พี่สะใภ้เข้าบ้านกันก่อนเจ้าค่ะ ค่อยไปคุยกันในบ้านนะเจ้าคะ” นางเหลียนซื่อ
“เช่นนั้นก็เข้าบ้านกันเถอะ น้องเขยเจ้าอุ้มจื้อโหยวเข้าไปพักข้างในก่อน” นางซ่งซื่อ
“เอะอะอะไรกัน เสียงดังไปถึงหลังบ้าน” แม่เฒ่าเหลียน
“ท่านแม่ น้องสาวกับน้องเขยมาเจ้าค่ะ หลานสาวเกิดเรื่องแล้ว” นางซ่งซื่อตอบแม่สามี
“อะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับหลานข้า นี่มันเรื่องอันใดกัน” แม่เฒ่าเหลียน
“ท่านแม่ใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ ข้าจะเล่าให้ท่านแม่ฟังเอง และต่อจากนี้ไปข้าและท่านพี่จะขอกลับมาอยู่ที่นี่ได้หรือไม่เจ้าคะ ท่านพี่ตัดขาดจากบ้านเว่ยแล้ว พวกเราจะขออาศัยอยู่กับท่านแม่สักระยะ จากนั้นพวกเราจะหาทางขยับขยายออกไปอยู่กันเองเจ้าค่ะ” นางเหลียนซื่อเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา
“เอาเถอะ ๆ ที่ทางของบ้านเรายังมีพอที่จะให้พวกเจ้าปลูกบ้าน ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก เจ้าบอกมาให้แม่ฟังสิมันเกิดอันใดขึ้น”
หลังจากที่ได้ฟังลูกสาวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแม่เฒ่าเหลียนก็อยากจะไปจัดการกับยายแก่สารเลวบ้านเว่ยจริง ๆ โชคดีที่ลูกเขยของนางตัดขาดออกมาได้ นางไม่เชื่อหรอกว่าคนขยันอย่างเจี้ยนป๋อจะไม่สามารถหาเลี้ยงลูกเมียได้ ถึงตอนแรกจะลำบากไปบ้างเท่านั้น
แต่ปัญหาเรื่องหลานสาวนั้นหากว่าไม่หาทางออกที่ดีไม่พ้นว่าจะโดนอำนาจเงินของตาเฒ่าบ้ากามคนนั้นรังแกเอาได้ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถรอดพ้นจากน้ำมือของตาเฒ่าบ้ากามนั้นได้คือให้หลานสาวแต่งออกไป
หากผู้ใดล่วงละเมิดภรรยาผู้อื่นถือว่ามีความผิดร้ายแรง แม้ว่าคนผู้นั้นจะมีเงินมีอำนาจมากก็ไม่สามารถที่จะล่วงละเมิดภรรยาของผู้อื่นได้ โทษของผู้ที่ทำความผิดคือต้องไปใช้แรงงานขุดคูเมืองและโดนยึดทรัพย์
บทล่าสุด
#57 บทที่ 57 ออกเดินทาง
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#56 บทที่ 56 หิมะแรก
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#55 บทที่ 55 ฟ้าผ่าเจ้าค่ะ
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#54 บทที่ 54 ฤดูหนาวที่มาพร้อมกับข่าวร้าย
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#53 บทที่ 53 มันสายแล้ว
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#52 บทที่ 52 เตรียมรับมือกับฤดูหนาว
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#51 บทที่ 51 ร่ำรวยไปด้วยกัน
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#50 บทที่ 50 เข้าป่ากับสหาย
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#49 บทที่ 49 ไปเยี่ยมเยียนสหายอีกครั้ง
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025#48 บทที่ 48 ระเบิดมือ
อัปเดตล่าสุด: 9/30/2025
คุณอาจชอบ 😍
คุณฮั่ว โปรดรักฉัน
ภรรยารสโอชา
แต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งบ้าคลั่งยิ่งขึ้นก็คือเมื่อวานนี้เธอได้เห็นพี่ชายของสามีกำลังอาบน้ำโดยบังเอิญ
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
พรากรักไร้หวนคืน
ในวันที่เขาแต่งงานกับรักแรกของเขา ออเรเลียก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และลูกแฝดในครรภ์ของเธอก็หัวใจหยุดเต้นไป
นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็เปลี่ยนข้อมูลการติดต่อทั้งหมดและหายไปจากโลกของเขาอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา นาธาเนียลก็ได้ทอดทิ้งภรรยาใหม่ของเขาและออกตามหาผู้หญิงที่ชื่อออเรเลียไปทั่วโลก
ในวันที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาต้อนเธอจนมุมในรถของเธอและอ้อนวอนว่า "ออเรเลีย ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะนะ!"
(ขอแนะนำนิยายสุดประทับใจที่ทำเอาฉันอ่านรวดเดียวสามวันสามคืนวางไม่ลง! สนุกจนหยุดไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องอ่านจริงๆ ชื่อเรื่องคือ《หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก》สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหาเลย)
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
หนีไม่พ้น...คำสัญญาของยักษ์
แต่คู่หมั้นของฉันกลับช่วยแค่น้องสาว ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมตามลำพัง
ปรากฏว่าคู่หมั้นของฉันแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องสาวของฉันมาโดยตลอด
การลักพาตัวครั้งนี้เป็นแผนการของคนเลวสองคนนั้น พวกเขาต้องการฆ่าฉัน!
พวกโจรตั้งใจจะข่มขืนฉัน ทรมานฉันจนตาย...
ฉันดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด และระหว่างทางก็ได้พบกับชายลึกลับคนหนึ่ง
เขาจะเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันได้หรือเปล่า?
หรือบางที อาจจะเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของฉัน?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าหลงใหลเล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ยอมวางตลอดสามวันสามคืน มันสนุกจนวางไม่ลงและต้องอ่านให้ได้ ชื่อหนังสือคือ "หย่าง่าย แต่งใหม่ยาก" คุณสามารถค้นหาได้โดยพิมพ์ชื่อในแถบค้นหา)
ห้ามหย่า! คุณหลู่คุกเข่าปลอบโยนทุกคืน
ก้าวสู่ความรัก: หัวหน้าหวานใจรักแรก
สิ่งที่หยุนเสี่ยงอยากทำมากที่สุดเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีต คือการห้ามตัวเองในวัย 17 ไม่ให้ตกหลุมรักเซี่ยจวินเฉินวัย 18 ปี
แต่เมื่อวิญญาณวัย 26 ปีของเธอได้เข้าสิงร่างของเด็กสาววัย 17 อีกคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หยุนเสี่ยงคาดไว้เลย
หม่อซิงเจ๋อ บอสในอนาคตของเธอ ดันมาอาศัยอยู่ในบ้านที่เธออยู่ตอนนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชีวิตการอยู่ร่วมชายคาที่วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น
หนึ่งปีต่อมา
อุบัติเหตุรถชนที่ไม่คาดคิด พาหยุนเสี่ยงกลับไปยังวัย 26 ปีของเธออีกครั้ง
เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความฝันที่สวยงาม พอตื่นขึ้นทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม
แต่ตั้งแต่เธอปรากฏตัวต่อหน้าหม่อซิงเจ๋ออีกครั้ง
ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สำหรับเธอ มันเป็นเพียงเวลาหนึ่งปี แต่สำหรับหม่อซิงเจ๋อ เธอคือคนที่เขาหมกมุ่นมาตลอดเก้าปี
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดจากโลกของเขาอีกครั้ง
หม่อซิงเจ๋อจับมือหยุนเสี่ยงที่กำลังจะเดินจากไป กัดฟันพูดอย่างเดือดดาล "หยุนเสี่ยง ฉันรอเธอมาเก้าปี แค่ให้เธอรออีกเก้านาทีมันยากนักเหรอ?"
น้ำตาของหยุนเสี่ยงไหลอาบแก้ม "ฉันนึกว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว"
หม่อซิงเจ๋อโกรธจนแทบคลั่ง เขาทุ่มเททุกวิถีทางก็เพื่อกักเธอไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตเท่านั้น
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก
กับดักอดีตภรรยา
แม้จะอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาสองปี แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับไม่มีความหมายเท่ากับการกลับมาของเด็บบี้ มาร์ตินเพื่อรักษาอาการป่วยของเด็บบี้ เขาไม่สนใจการตั้งครรภ์ของแพทริเซียและผูกมัดเธอไว้กับเตียงผ่าตัดอย่างโหดร้าย มาร์ตินไร้หัวใจ ทำให้แพทริเซียรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น จนเธอตัดสินใจจากไปยังต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มาร์ตินไม่เคยยอมแพ้แพทริเซีย แม้ว่าเขาจะเกลียดเธอ เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขามีความหลงใหลในตัวเธออย่างอธิบายไม่ได้ หรือว่าโดยไม่รู้ตัว มาร์ตินได้ตกหลุมรักแพทริเซียอย่างหมดใจ?
เมื่อเธอกลับมาจากต่างประเทศ เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้างๆ แพทริเซียเป็นลูกของใคร? ทำไมเขาถึงมีหน้าตาคล้ายกับมาร์ติน ผู้ที่เหมือนปีศาจมากขนาดนั้น?
(ฉันขอแนะนำหนังสือที่น่าติดตามอย่างมากจนไม่สามารถวางลงได้เป็นเวลาสามวันสามคืน มันน่าตื่นเต้นและต้องอ่าน ชื่อหนังสือคือ "ลูกสาวราชาการพนัน" คุณสามารถค้นหาได้โดยการพิมพ์ชื่อในช่องค้นหา)