บทที่ 11
พี่ชายของไลราถอนหายใจแล้วพูดต่อ "สิบหกปีก่อน มีแค่ไลราคนเดียวที่ติดคุก เธอเก็บความแค้นไว้ ไม่นานหลังจากออกจากคุก เธอก็ไปที่บ้านของเคิร์ทเพื่อเรียกร้องเงินชดเชย แต่พวกเขาย้ายบ้านไปหมดแล้ว และไลราก็ตามหาเขาอยู่หลายปี"
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "ต่อมา ผมบังเอิญไปรู้มาว่าไลรากับเคิร์ทกลับมาคบกันอีก สองสามปีให้หลัง เธอก็หลุดปากออกมาว่าซื้อบ้านแล้ว ผมเดาว่าเคิร์ทคงเป็นคนให้เงินเธอ"
โรเบิร์ตขัดจังหวะเขา "ตอนนั้นเคิร์ทแต่งงานแล้วหรือยังครับ"
"ครับ แต่งแล้ว"
เมื่อโรเบิร์ตกับอีธานออกจากห้องสอบสวน อีธานก็เอ่ยขึ้น "ดูเหมือนว่าต้นตอของคดีฆาตกรรมครั้งนี้คือไลราไม่ได้อยากเป็นแค่เมียน้อยของเคิร์ท เธอเลยพยายามกดน้ำภรรยาของเคิร์ทเพื่อจะมาแทนที่ เผลอๆ เคิร์ทอาจจะรู้เห็นเป็นใจด้วยซ้ำ แผนคือให้ไลราลงมือฆ่า แล้วจากนั้นเคิร์ทก็จะกำจัดเธอเพื่อปิดปาก"
ถึงแม้ว่าคืนนั้นเคิร์ทจะลงมือฆ่าเธอเองไม่ได้เพราะอยู่ในสายตาของอีธาน แต่เขาก็อาจจะจ้างมือปืนมาจัดการได้
แต่โรเบิร์ตยังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เคิร์ทดูเป็นคนสมบูรณ์แบบในสายตาทุกคน และแทบไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมเก่าคดีนั้น
ทำไมคนรักความสมบูรณ์แบบถึงยอมให้เมียน้อยที่เคยติดคุกมาฆ่าภรรยาตัวเอง เพียงเพื่อที่ภายหลังจะต้องมายุ่งยากจ้างคนไปกำจัดเมียน้อยอีกที
อีกอย่าง ถ้าเขาอยากให้ภรรยาตายจริงๆ เขาก็แค่จ้างมือปืนไปจัดการโดยตรงก็ได้นี่
โรเบิร์ตหันไปพูดกับอีธาน "นี่ ช่วยเช็กหน่อยได้ไหมว่าภรรยาของเคิร์ทได้รับมรดกก้อนโตอะไรบ้างหรือเปล่า หรือว่าเขาทำประกันชีวิตไว้ให้เธอไหม"
มีความเป็นไปได้ว่าเคิร์ทอาจจะฆ่าภรรยาตัวเองเพื่อเอาเงิน
แต่โรเบิร์ตก็ยังคิดไม่ตกว่าทำไมเคิร์ทไม่แค่จ้างคนไปจัดฉากให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ
มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล โรเบิร์ตสั่งให้เจ้าหน้าที่คนอื่นไปค้นบ้านของไลรา ส่วนตัวเขามุ่งหน้าไปที่ทำงาน เขาหยิบรูปถ่ายจากที่เกิดเหตุการตายของไลราและที่บ้านของเธอออกมา แล้วเริ่มพิจารณาดูทีละรูป
รูปถ่ายหลายใบมีไพ่ทาโรต์อยู่ในนั้น แสดงให้เห็นว่าไลราหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้มาก ถ้าเขาสามารถไขความหมายของไพ่ได้ ก็อาจจะได้เบาะแสว่าเธอกำลังพยายามทำนายอะไรอยู่ บางทีอาจมีคำใบ้เกี่ยวกับคดีซ่อนอยู่ในนั้น
"ไปหาความหมายของไพ่พวกนี้มา" เขาบอกอีธาน
"มันเกี่ยวอะไรกับคดีเหรอครับ" อีธานถาม
"เราเจอไพ่ทาโรต์หนึ่งใบในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตของเธอ ไพ่พวกนี้ต้องมีความหมายพิเศษกับเธอมาก ถึงขนาดที่พกติดตัวไปด้วยแม้กระทั่งตอนไปก่อเหตุ" โรเบิร์ตพูดพลางชี้ไปที่รูปถ่ายใบหนึ่ง "บางทีการทำความเข้าใจไพ่พวกนี้อาจจะช่วยให้เราไขคดีได้"
อีธานพยักหน้า สักพักโทรศัพท์ของโรเบิร์ตก็ดังขึ้น ผลการสืบสวนออกมาแล้ว
ปรากฏว่าครอบครัวของภรรยาเคิร์ทไม่ได้ร่ำรวยอะไร แถมบางครั้งเคิร์ทยังต้องส่งเงินไปให้พวกเขาด้วย นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้ให้เธอเลย
ดังนั้นแรงจูงใจเรื่องเงินจึงถูกตัดออกไป
"ไปเก็บตัวอย่างเส้นผมของเขากับลูกๆ ทั้งสองคน แล้วส่งไปให้โรงพยาบาลตรวจดีเอ็นเอ" เขาบอกเจ้าหน้าที่ที่อยู่อีกปลายสาย
ถ้าภรรยาของเคิร์ทนอกใจเขาแล้วเขาจับได้ เขาอาจจะฟิวส์ขาด ในกรณีนั้น การให้เมียน้อยฆ่าภรรยาแล้วค่อยจ้างคนไปเก็บไลราก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แผนนี้ไม่เพียงแต่จะกำจัดภรรยาที่นอกใจ แต่ยังกำจัดไลราไปได้ด้วย
"โรเบิร์ต ผมรู้ความหมายของไพ่พวกนี้แล้ว" อีธานพูด "ใบนี้คือไพ่แม่มด ส่วนใบนี้คือไพ่ปีศาจกลับหัว"
อีธานชี้ไปที่รูปถ่ายใบหนึ่ง "ส่วนไพ่ที่เจอในเสื้อแจ็กเก็ตของเธอเรียกว่าไพ่เทพีแห่งดวงจันทร์"
ต่อมาในตอนเย็นวันนั้น โซเฟียกับเอมิลี่ จอห์นสัน รูมเมตของเธอ มุ่งหน้าไปที่โรงอาหารของโรงพยาบาลเพื่อหาอะไรกิน ทันทีที่ได้อาหาร เอมิลี่ก็ลากเธอไปนั่งกับพยาบาลสองคน
"เบื่อจะตายอยู่แล้วที่ต้องกินอะไรซ้ำๆ ทุกวัน" เอมิลี่บ่น "คิดถึงไก่อบฝีมือแม่จัง"
พยาบาลคนหนึ่งพูดเสริม "อย่าว่าแต่เนื้อเลย ฉันอยากกินอาหารทะเล"
พยาบาลอีกคนพูดขึ้น "ฉันอยากกินทั้งเนื้อทั้งอาหารทะเลเลย"
ทุกคนหันมามองโซเฟีย
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตราบใดที่ชีวิตไม่เล่นตลกกับฉัน จะกินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ"
"งั้นเธอก็ควรจะคบกับเจเรมีนะ ถ้าเธอเป็นแฟนเขา เธอไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลย" พยาบาลคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉาเล็กน้อย
เอมิลี่รีบอธิบาย "โซเฟียชอบผู้ชายอายุมากกว่าน่ะ"
"จริงเหรอ" พยาบาลคนนั้นพูด "เมื่อวานฉันเพิ่งดูไพ่ทาโรต์มา เขาบอกว่าฉันถูกโฉลกกับผู้ชายอายุมากกว่า"
แล้วพวกเธอก็เริ่มเล่นไพ่ทาโรต์กันอย่างสนุกสนาน ส่วนโซเฟียก็นั่งกินข้าวของเธอไปเงียบๆ
พยาบาลคนหนึ่งถามขึ้น "โซเฟีย ทำไมเธอไม่ลองดูไพ่บ้างล่ะว่าจะได้ใครเป็นสามีในอนาคต"
โซเฟียส่ายหน้า
"โซเฟียไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก" เอมิลี่พูด "อีกอย่าง มันก็ไม่ได้แม่นเสมอไป"
ไม่ว่ามันจะแม่นยำหรือไม่ แต่มันก็เย้ายวนใจสำหรับคนที่เชื่อในเรื่องนี้
โซเฟียยิ้มให้เอมิลี่อย่างขอบคุณแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เป็นสายจากเจเรมี เธอเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้กดรับ
เจเรมีไม่ได้โทรมาอีก จนกระทั่งทุกคนกินข้าวกันใกล้จะเสร็จ โทรศัพท์ของโซเฟียก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เจเรมี แต่เป็นเบอร์เสมือนออนไลน์ โซเฟียก็ยังไม่ได้รับสายอยู่ดี
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะ" คนอื่นๆ ถาม
