
บทนำ
“ติณ!”
“อะไรของมึงอีกล่ะ ไม่มีเรียนแล้ว มึงจะไปตายที่ไหนก็ไปสิ” ไอ้ติณย้อนผมพลางสีหน้าหงุดหงิดใส่
ผมสิที่ต้องเป็นคนหงุดหงิด มันจะมาหงุดหงิดอะไรในเมื่อมันนั่นและที่เป็นต้นเหตุี่ทำให้ผมต้องโดนไล่ออกจากห้องเรียน ทั้งๆ รีบมาจนเกือบเช็คชื่อไม่ทัน
“นายตั้งใจจะทำให้เราโดนไล่ออกมาจากห้องงั้นเหรอ”
“ก็เออดิ สมองมึงแรมน้อยรึไงถึงได้ฉลาดช้านัก”
“แต่เราตั้งใจมาเรียนหนังสือนะ”
“เรียนมาครึ่งชีวิตแล้ว มึงไม่เบื่อบ้างรึไง”
ผมว่าแล้วเชียวว่าทำไมมันถึงได้สะกิดผมนักทั้งๆ ที่มันน่าจะเงียบปากไปได้ที่รู้ว่าอาจารย์มองแล้ว ที่แท้มันก็ตั้งใจจะให้อาจารย์ไล่ออกมานี่เอง
“มองหน้านี่หิวตีนรึไง หรืออยากจะลองกิน”
“นายคงกินบ่อยสินะ สมองนายถึงได้มีแต่เรื่องตีนๆ”
“ไอ้เหี้ยคิม” ไอ้ติณคะตอกเรียกผมเสียงดังแถมยังเดินเข้ามากระชากคอเสื้อผมเข้าหาตัวแล้วง้างหมัดขึ้นกลางอากาศทำท่าเหมือนอยากจะชกปากผมเสียเต็มประดา
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ปากดีมากคราวหน้าได้แดกตีนสมใจแน่”
โธ่ว้อยยย! ผมมาเพื่อเช็คชื่อแล้วก็โดนไล่ออกจากห้องสินะ ช่างเป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาที่แสนพิเศษจริงๆ
บท 1
อาคารจิราพิพัฒน์เกียรติ
ชั้น 6
ตึกตัก!
ตึกตัก!
ตึกตัก!
เสียงฝีเท้าหนักแน่นของผมกระทบลงกับพื้นหินอ่อนอย่างต่อเนื่องเพราะความเร่งรีบ เมื่อเช้าวันใหม่ที่ควรจะสดใสของผมกำลังจะกลายเป็นเช้าอันน่าเศร้าสลด เหตุผลก็เพราะว่าผมเหมือนจะเข้าเรียนไม่ทันเพราะตื่นสายทั้งที่วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก อุตส่าห์ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้อย่างดี แต่เผลอตื่นขึ้นมาเลื่อนแล้วเลื่อนอีกด้วยความเคยตัว รู้ตัวอีกทีก็ไฟล้นก้นเสียแล้ว
ตายห่า ผมว่าไม่เหมือนสายหรอก งานนี้ผมต้องสายแน่ๆ เพราะตอนนี้เกือบจะเก้าโมงแล้วผมยังไม่ถึงห้องเรียนเลย
ตึง!
และเสียงที่ตามมาก็คือเสียงจากฝ่ามือของผมเอง ตกใจทำไม ผมก็แค่ผลักประตูเข้าไปในห้องเรียน
“คุณคิมหันต์”
“มาครับ” ผมรีบยกมือขึ้นแล้วขานรับเสียงดังเมื่ออาจารย์ขานชื่อผมเพื่อเช็กชื่อพอดี
อาจารย์หันมามองผมด้วยหางตานิดหน่อยก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมส่งยิ้ม เมื่อเห็นว่าอาจารย์ไม่ได้ว่าอะไรผมจึงรีบเดินเข้าไปในห้องโดยก้มหลังเดินผ่านหน้าอาจารย์มาอย่างนอบน้อม
แอบดีใจเบาๆ ที่อย่างน้อยผมก็แค่เกือบสาย เช็กชื่อทันพอดีก็ยังถือว่าไม่สายนั่นแหละน่า
“ถ้าคุณคิมหันต์เลขที่หนึ่ง ก็ถือว่าสายนะคะ” อาจารย์ป้าหน้าโบ (ท็อกซ์) พูดขึ้นมาเสียงเข้มพลางขยับแว่นสายตากรอบสีทองบางเฉียบขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง ทว่าแว่นสายตานั้นเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเพราะสายตาที่เธอมองผมอยู่เหนือกรอบแว่นนั้นขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าใส่แว่นไว้ทำไม
“ผมเลขที่เก้าครับ” ผมตอบอย่างมั่นใจแล้วฉีกยิ้ม พูดจบผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนทุกคนในห้องแอบหัวเราะกันเบาๆ แต่สุดท้ายทั้งห้องก็ต้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเมื่อมีฝุ่นละอองปลิวเข้ารูจมูกของอาจารย์แล้วลื่นไหลไปที่หลอดลมจนอาจารย์รู้สึกระคายเคืองคอเป็นเหตุให้ไอค่อกแค่ก
“เชิญ!”
ใจหายแวบเลย คิดว่าจะไม่รอดเสียแล้ว
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้อาจารย์ทันทีพร้อมกับลอบถอนหายใจ ก่อนจะพุ่งตัวตรงไปที่บันไดสโลปแล้วรีบกวาดสายตาเพื่อมองหาที่นั่งตามทิศทางมงคล
ผมก็แค่ต้องเลือกและมองหาทำเลทองเหมาะๆ ในการหลบสายตาของอาจารย์ป้า ที่รุ่นพี่ต่างก็เล่าขานและขนานนามกันว่าเวลาตัดเกรดเธอจะโหดสัสรัสเซียมากกว่าเวลาสอน ซึ่งเมื่อมองเห็นทำเลที่โดนใจแล้ว ผมก็รีบสืบเท้าตรงไปที่ชั้นสามมุมห้องฝั่งซ้ายมือของอาจารย์ทันที
ฟู่!!!
แอบถอนหายใจยาวๆ อีกรอบเมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ก้มหน้าลงเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเลคเชอร์กับปากกาขึ้นมาเตรียมความพร้อมรออาจารย์เพราะว่าตอนนี้อาจารย์กำลังเช็กชื่อเพื่อนๆ คนอื่นไปเรื่อยๆ ตามลำดับเลขที่ ถือโอกาสนี้จดจำชื่อเพื่อนร่วมคลาสไปด้วยเลยก็แล้วกัน
“คุณติณภพ”
ตึง!
“มาครับ” เสียงทุ้มเข้มขานรับพร้อมกับเจ้าตัวที่ก้าวพรวดโผล่พ้นมาจากด้านหลังประตูที่เพิ่งจะถูกผลักเข้ามา ระดับความสูงของหมอนั่นเลยวงกบประตูขึ้นไปอีกแน่ะ
ทุกคนในห้องรีบหันไปมองหน้าตาเพื่อนผู้มาใหม่ และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะว่าเสียงผลักประตูเข้ามาอย่างรีบร้อนนั่นทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งห้องไปโดยปริยาย
ร่างสูงยืดลำตัวขึ้นตรงเต็มความสูงซึ่งสามารถจะสะกดทุกสายตาได้อยู่หมัด ผมแอบประเมินด้วยสายตาแล้วนายคนนั้นน่าจะสูงราวๆ ร้อยแปดสิบปลายๆ ทีเดียว ขนาดมองไกลๆ ยังรู้สึกว่าเขาสูงมากจริงๆ ใบหน้าขาวสะอาดจนทำให้เครื่องหน้าทุกอย่างโดยรวมดูลงตัวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากสีแดงสดราวกับผลเชอร์รี่ จมูกโด่งเป็นสันเหมือนจะเป็นลูกครึ่งแต่ติดตรงที่เขามีเส้นผมสีดำขลับที่บ่งบอกถึงความเป็นชายไทยแท้ๆ ที่ยิ่งขับสีผิวของเขาให้ขาวเด่นมีออร่ายิ่งกว่าเดิม สายตาคมๆ ที่อยู่ภายใต้เรียวคิ้วเข้มนั่นทำให้เขาดูเป็นผู้ชายดุดันทีเดียว สรุปได้ว่าคนนี้งานดี งานพรีเมี่ยม
คนห่าอะไรจะหล่อขนาดนี้ หล่อไม่ลืมหูลืมตา หล่อวัวตายสาววายตะลึง กันทั้งห้องไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ชาติก่อนทำบุญด้วยแมกกาซีนนายแบบมั้ง
“สายค่ะ”
“ไม่สายครับ”
“สายค่ะ”
“ไม่สายครับ”
“ฉันบอกว่าสายค่ะ!”
“แต่ผมดูเวลาแล้วว่าผมไม่สายครับ ผมได้ยินอาจารย์เรียกชื่อผมพอดีตอนก้าวเท้าเข้ามา” ร่างสูงพยายามอธิบาย (เถียง) ข้างๆ คูๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเอาความกล้าอย่างนั้นมาจากไหน เมื่อกี้ตอนผมเถียงอาจารย์ผมยังใจสั่นแทบแย่ แต่เขาพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับพูดคุยกับอาจารย์ถึงเรื่องลมฟ้าอากาศ
ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมหรอกที่กำลังตกตะลึงในความใจกล้าของนายคนนั้น ที่กล้าต่อปากต่อคำกับอาจารย์ที่คนทั้งคณะไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตอนเดินผ่าน หรือถ้านี่ไม่ใช่ความกล้า ก็ต้องเป็นความบ้าแน่ๆ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะกล้ายืนเถียงอาจารย์ป้ารุ่นปูชนียบุคคลประจำมหา’ ลัยแบบนั้นกัน
บทล่าสุด
- #91 บทที่ 91 Epilogue [4]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #90 บทที่ 90 Epilogue [3]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #89 บทที่ 89 Epilogue [2]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #88 บทที่ 88 Epilogue [1]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #87 บทที่ 87 EP 26 เขิน [4]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #86 บทที่ 86 EP 26 เขิน [3]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #85 บทที่ 85 EP 26 เขิน [2]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #84 บทที่ 84 EP 26 เขิน [1]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #83 บทที่ 83 EP 25 พ่อของเด็ก [4]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
- #82 บทที่ 82 EP 25 พ่อของเด็ก [3]อัปเดตล่าสุด: 10/30/2025
คุณอาจชอบ 😍
คืนเดียว...ที่หัวใจถูกขโมยโดยซีอีโอ
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันรีบแต่งตัวและหนีออกมา แต่กลับต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อไปถึงบริษัทแล้วพบว่าผู้ชายที่ฉันนอนด้วยเมื่อคืนกลับเป็น CEO คนใหม่...
(ขอแนะนำนิยายสนุกๆ ที่ทำเอาฉันติดงอมแงม อ่านรวดเดียวสามวันสามคืนจนวางไม่ลงเลยค่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามสุดๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด ชื่อเรื่องคือ 《โอกาสครั้งที่สอง: แต่งงานกับมหาเศรษฐี》 สามารถค้นหาชื่อเรื่องนี้ได้ในช่องค้นหาเลยค่ะ)
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
หญิงสาวถูกทอดทิ้งจากหมู่บ้านเกษตรกร
เธอคิดว่าชีวิตคงจบลงเพียงเท่านี้ แต่ไม่คาดคิดว่าชีวิตเหมือนกระดานหมาก ที่ทุกตาล้วนเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สามีที่บ้าไม่เพียงกลับมาเป็นปกติ แต่ยังพาเธอสร้างฐานะจนร่ำรวย
มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ? ไม่แน่เสมอไป! แต่เมื่ออยู่ข้างซ่งชูซิน สามีที่รักและเอาใจเธอ ไต้เยวี่ยเหอกลับทำอะไรได้ตามใจปรารถนาเสมอ
ส่วนซ่งชูซิน ในฐานะดวงวิญญาณเดียวดายที่ข้ามมาจากอีกห้วงเวลาอันไกลโพ้น เขารู้สึกซาบซึ้งใจเสมอที่ได้พบกับไต้เยวี่ยเหอ ไม่ว่าโลกภายนอกจะวิพากษ์วิจารณ์หรือทำร้ายเธออย่างไร เขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างเธออย่างมั่นคง
ทรัพย์สินเงินทองนั้นมีค่าอะไร? ชื่อเสียงเลื่องลือมีความหมายอะไร? ชีวิตนี้ ข้าเพียงปรารถนา และอยากจะอยู่เคียงข้างเจ้า ร่วมต้อนรับแสงอรุณ ชมพระอาทิตย์อัสดง และในลานเล็กๆ ที่เราครอบครองร่วมกัน ปลูกดอกไม้ที่เจ้าชื่นชอบให้เต็มไปหมด...
ห้ามหย่า! คุณหลู่คุกเข่าปลอบโยนทุกคืน
ราชินีน้ำแข็งสำหรับขาย
อลิซเป็นนักสเก็ตน้ำแข็งวัยสิบแปดปีที่สวยงาม อาชีพของเธอกำลังจะถึงจุดสูงสุดเมื่อพ่อเลี้ยงที่โหดร้ายขายเธอให้กับครอบครัวที่ร่ำรวย ครอบครัวซัลลิแวน เพื่อเป็นภรรยาของลูกชายคนเล็กของพวกเขา อลิซคิดว่าต้องมีเหตุผลที่ผู้ชายหล่อๆ อยากแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้า โดยเฉพาะถ้าครอบครัวนั้นเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อเสียง เธอจะหาทางละลายหัวใจเย็นชานั้นเพื่อให้เธอไปได้ไหม? หรือเธอจะสามารถหนีไปได้ก่อนที่จะสายเกินไป?
สาวใช้ของมหาเศรษฐีผู้ครอบงำ
สาวใช้ไร้เดียงสาที่ทำงานให้กับพี่น้องมหาเศรษฐีสองคนที่มีอำนาจเหนือกว่า กำลังพยายามซ่อนตัวจากพวกเขา เพราะเธอได้ยินมาว่าถ้าสายตาอันหื่นกระหายของพวกเขาตกลงไปที่ผู้หญิงคนไหน พวกเขาจะทำให้เธอกลายเป็นทาสและครอบครองจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของเธอ
ถ้าวันหนึ่งเธอได้พบกับพวกเขาล่ะ? ใครจะจ้างเธอให้เป็นสาวใช้ส่วนตัว? ใครจะควบคุมร่างกายของเธอ? ใครจะเป็นเจ้าของหัวใจของเธอ? ใครที่เธอจะตกหลุมรัก? ใครที่เธอจะเกลียด?
“ได้โปรดอย่าลงโทษฉันเลยค่ะ คราวหน้าฉันจะมาตรงเวลา มันแค่-“
“ถ้าคราวหน้าพูดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉันจะปิดปากเธอด้วยของฉัน” ตาฉันเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“เธอเป็นของฉันนะ ลูกแมว” เขากระแทกเข้ามาในตัวฉันอย่างแรงและเร็ว ลึกขึ้นทุกครั้งที่เขาเคลื่อนตัว
“ฉัน...เป็น...ของคุณ...นายท่าน...” ฉันครางอย่างบ้าคลั่ง กำมือไว้ข้างหลัง
อัลฟ่าผู้ชั่วร้าย
"ฉันอธิบายได้นะ-"
เขาตัดบทฉัน
"เธอเป็นแมวน้อยที่แย่มาก เธอไม่รู้เลยว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง"
มือของเขาบีบคอฉันแน่นจนฉันหายใจไม่ออก
"ถอดเสื้อผ้า"
คำนี้ทำให้ฉันตื่นจากความช็อก "อะ-"
"ฉันจะนับถึง 3 ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก - 1"
นี่มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ
"2"
ฉันคิดว่าเขาเป็นเกย์
"3"
เอมาร่า หญิงสาวอายุ 21 ปี ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหางานในบริษัทข้ามชาติ
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เจ้านายของเธอหล่อมาก
เขาไม่ใช่มนุษย์
เธอคือคู่ชีวิตของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมาป่าตัวใหญ่เจอคู่ชีวิตของเขา?
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง?
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผย? ใครจะจม? ใครจะรอด?
มีภาคต่อในหนังสือเล่มนี้!
ความหวังที่ว่างเปล่า
มาทำงานที่บ้านเจ้านายคนใหม่ได้ครึ่งเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ คุณภาพการนอนของฉันแย่มาก
จากห้องของเจ้านาย มักจะมีเสียงประหลาดๆ ดังออกมาในยามดึก
ฉันซึ่งแต่งงานมีสามีแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่าเสียงพวกนั้นหมายถึงอะไร ทุกครั้งที่เห็นหน้าเจ้านาย ใบหน้าฉันจึงมักจะร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง
สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยก็คือ เจ้านายเป็นแบบนี้ทุกคืน ราวกับมีพลังไม่รู้จักหมด
ภายหลัง ฉันถึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "โรคติด"
ลักพาตัวเจ้าสาวผิดคน
และให้ตายเถอะ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าฉันไม่ต้องการเธอเหมือนกัน
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สวยและเซ็กซี่สุดๆ ในชุดนอนบางๆ ที่แทบจะไม่ปิดอะไรเลย"
"เธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงๆ" เขากระซิบด้วยความทึ่ง
ฉันไม่คิดว่าเขาตั้งใจจะพูดออกมาดังๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน ความจริงที่ว่าเขามีข้อสงสัยในคำพูดของฉันควรจะทำให้ฉันโกรธ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ดังนั้นแทนที่จะโกรธ ฉันกลับเกร็งตัวและคราง "ได้โปรด" ฉันขอร้องเขา
—————— กาเบรียลา: ฉันแค่อยากมีชีวิตปกติ แต่สิ่งนั้นถูกพรากไปเมื่อพ่อของฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยพบ โชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกอีกครั้ง วันที่เราจะพบกัน ฉันกลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งมาเฟียคู่แข่ง เพียงเพื่อจะพบว่าฉันถูกลักพาตัวผิดคน! แต่เมื่อเอนโซ จอร์ดาโนเข้ามาในชีวิต ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากกลับไป ฉันแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก ถ้านี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เขาสนใจฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทาง แต่เขาจะต้องการฉันด้วยหรือเปล่า ฉันไม่แน่ใจเลย
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
คุณฟอร์บส์
โอ้พระเจ้า! คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่หยิ่งยโสและชอบบงการทุกอย่างตามใจตัวเอง
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉันถาม ขณะที่รู้สึกว่าขาของฉันเริ่มอ่อนแรง
"ขอโทษนะถ้าฉันทำให้เธอคิดว่าเธอมีทางเลือก" เขาพูดก่อนจะคว้าผมของฉันแล้วดันตัวฉันลง บังคับให้ฉันก้มลงและวางมือบนโต๊ะทำงานของเขา
โอ้ พระเจ้า มันทำให้ฉันยิ้ม และทำให้ฉันยิ่งเปียกชุ่ม บรายซ์ ฟอร์บส์ ดุเดือดกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มาก
แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง สามารถใช้คำพ้องความหมายทุกคำในพจนานุกรมเพื่ออธิบายเจ้านายจอมโหดของเธอ และมันก็ยังไม่เพียงพอ บรายซ์ ฟอร์บส์ เป็นตัวอย่างของความโหดร้าย แต่โชคร้ายที่เขาก็เป็นตัวอย่างของความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นกัน
ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแอนน์และบรายซ์ถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้ แอนนาลีสต้องต่อสู้เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ต่อสิ่งยั่วยวน และต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก ระหว่างการตามความทะเยอทะยานในอาชีพของเธอหรือยอมแพ้ต่อความปรารถนาลึกๆ ของเธอ เพราะเส้นแบ่งระหว่างสำนักงานและห้องนอนกำลังจะหายไปอย่างสิ้นเชิง
บรายซ์ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้เธอออกไปจากความคิดของเขา แอนนาลีส สตาร์ลิ่ง เคยเป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานกับพ่อของเขา และเป็นที่รักของครอบครัวเขา แต่โชคร้ายสำหรับบรายซ์ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ขาดไม่ได้และยั่วยวนที่สามารถทำให้เขาคลั่งได้ บรายซ์ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถห้ามมือของเขาไม่ให้แตะต้องเธอได้นานแค่ไหน
ในเกมที่อันตราย ที่ธุรกิจและความสุขต้องห้ามมาบรรจบกัน แอนน์และบรายซ์ต้องเผชิญกับเส้นแบ่งที่บางเบาระหว่างเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ทุกสายตาที่แลกเปลี่ยน ทุกการยั่วยุ เป็นคำเชิญให้สำรวจดินแดนที่อันตรายและไม่รู้จัก
















