ฉันจะไม่มีเขาเลย
เกรย์
วันใหม่เริ่มต้นขึ้น ฉันเริ่มทำงานออกแบบเว็บที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ฉันมาถึงที่ทำงานก่อนมาร์ค เพียงเพราะอยากจะหลีกเลี่ยงเขาที่ลานจอดรถ การต้องอยู่กับเขาตามลำพังในออฟฟิศก็หนักหนาพอแล้วสำหรับฉัน ฉันได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่ฟังดูเหมือนการโต้เถียงอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า ฉันฟังไม่ถนัดว่าเรื่องอะไรกันแน่ ฉันเงยหน้าขึ้นจากแท็บเล็ตแล้วก็เห็นมาร์คในชุดสูทอาร์มานีสามชิ้นสีน้ำเงินกรมท่า เขากำลังคุยโทรศัพท์แนบหู ส่วนมืออีกข้างก็ถือกระเป๋าแล็ปท็อปเดินเข้าห้องทำงานไป เขาไม่มองมาทางฉันเลยหรือไม่ทันสังเกตว่าฉันมาถึงแล้ว เว้นแต่ว่าเขาจะเห็นรถฉันในลานจอดรถแล้ว
เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วนั่งลง เขากำลังเถียงโทรศัพท์อย่างหัวเสีย ดูท่าทางหงุดหงิด แล้วเขาก็หันมาสบตากับฉันเข้าพอดี ก่อนจะรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ฉันตัดสินใจว่าจะทำงานออกแบบของตัวเองต่อ จึงทุ่มสมาธิทั้งหมดไปที่งาน แม้จะอยากรู้เรื่องสายโทรศัพท์นั่นมากแค่ไหน แต่ฉันก็บังคับตัวเองไม่ให้เงยหน้าขึ้นไปอีก
“อรุณสวัสดิ์ครับ เห็นคุณกำลังยุ่งอยู่กับงานออกแบบเลย” ฉันเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มสดใสของแซม
“อ้าว...ใช่แล้วล่ะ ฉันมาก่อนเวลาเลยคิดว่าจะได้สะสางงานออกแบบสักหน่อย” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม
“คุณสวยเหมือนเคยเลยนะครับ” เขาพูดจนฉันอดหน้าแดงไม่ได้
“ขอบคุณนะ” ฉันตอบ วันนี้ฉันใส่ชุดเดรสสีขาวรัดรูปที่เน้นสัดส่วนทุกโค้งเว้า ความยาวอยู่ระดับกลางต้นขา กับรองเท้าส้นสูงสีดำเตี้ยๆ ผมปล่อยสยายเป็นลอนอ่อนๆ ที่ปลายผม พร้อมกับการแต่งหน้าลุคธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของฉันกับลิปสติกสีแดง
“คือผมแวะมาถามว่าคืนนี้คุณอยากไปดื่มกับพวกเด็กฝึกงานคนอื่นๆ ไหมครับ” เขาถาม คราวนี้ฉันสังเกตเห็นว่าเขามีประเป๋าแล็ปท็อปมาด้วย สายกระเป๋าสะพายอยู่บนไหล่ มือข้างหนึ่งของเขาจับสายกระเป๋าไว้
“ได้สิ ส่งเวลาและสถานที่มาให้ฉันแล้วกันนะ” ฉันตอบ ทันใดนั้นเอง มาร์คก็มายืนอยู่ข้างๆ แซม ฉันสาบานได้เลยว่าเขาจะโผล่มาก็ต่อเมื่อแซมอยู่กับฉันเท่านั้น ฉันอยากจะกลอกตาใส่เขาใจจะขาด แต่ถึงอย่างนั้น การปรากฏตัวของเขาก็ส่งผลต่อฉัน...และมันช่างหนักอึ้ง สายตาของมาร์คแผดเผามาที่ฉัน “ไปชงกาแฟมาให้ผมเดี๋ยวนี้” เขาพูดพลางขมวดคิ้ว แล้วจ้องเขม็งไปที่แซมก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทำงานไป ไม่มีคำว่า ‘อรุณสวัสดิ์’ หรือ ‘ได้โปรด’ เลยสักคำ คราวนี้ฉันกลอกตาใส่จริงๆ
“ดูเหมือนวันนี้เจ้านายจะอารมณ์ไม่ดีนะ” แซมพูด
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าเงินออกจากลิ้นชักโต๊ะ
“จะให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ” แซมถามขณะที่ฉันลุกขึ้นยืน ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาคู่เดิมที่แผดเผามาที่ตัวฉันและรู้ว่ามาร์คกำลังมองอยู่ ฉันจึงแกล้งจัดชุดเดรสให้เข้าที่
“ไม่เป็นไรหรอก คุณเริ่มทำงานเถอะ คุณคงไม่อยากให้เจ้านายมาเพ่งเล็งหรอกนะ” ฉันบอก
“ผมยืนยัน” เขาพูด ขณะที่ฉันเดินไปร้านกาแฟ แซมก็ก้าวมาเดินข้างๆ ฉัน “อีกอย่าง ผมเกลียดงานออกแบบเว็บจะตาย” เขายิ้มกว้าง ฉันอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ รู้สึกโล่งใจที่เราออกมาจากออฟฟิศ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า
หลังจากซื้อกาแฟเสร็จ เราก็กลับมาที่ออฟฟิศ แต่มาช้าไปห้านาที แซมแยกไปทางของเขา ส่วนฉันก็เอากาแฟไปที่ห้องทำงานของมาร์ค ฉันเดินไปที่โต๊ะของเขา เขากำลังง่วนอยู่กับเอกสาร ดูเหมือนมีใครไปขโมยอะไรของเขามา เพราะอารมณ์ของเขาเย็นชาเป็นหิน คิ้วของเขายังคงขมวดมุ่น
ฉันวางแก้วกาแฟลงเบาๆ “เรื่องกาแฟคุณก็ต้องตรงเวลากว่านี้ด้วย” เขาพูด ฉันยืนตัวตรง เขาไม่มองหน้าฉันเลย
“ที่ร้านกาแฟคิวยาวน่ะค่ะ” ฉันพูดเสียงเบา
“มีแค่นั้นแหละ” เขาพูดอย่างเย็นชา ฉันเดินไปที่ประตู น้ำตารื้นขึ้นมาจนรู้สึกจุกที่คอ ฉันรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ เพราะเอาจริงๆ แล้ว หัวใจฉันเจ็บปวดรวดร้าวกับการปฏิบัติแบบนี้ ฉันเดาว่าคงไม่ชินที่โดนเขาทำแบบนี้ใส่ ฉันไม่เคยรู้จักเขาในมุมนี้มาก่อน และเขาไม่เคยใช้โทนเสียงแบบนี้กับฉันเลย บางทีฉันอาจจะไม่รู้จักเขาจริงๆ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่เขาจากไป “แซมเป็นอะไรกับคุณ” คำถามนั้นทำให้ฉันหยุดชะงัก ฉันหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา เขากำลังมองฉันอยู่แล้ว คิ้วยังคงขมวดเข้าหากัน
“นี่คือสาเหตุเหรอคะ” ฉันถาม อยากจะรู้เหตุผลที่เขาทำกับฉันแบบนี้
“ตอบคำถามง่ายๆ มา!” เขาสั่ง
“แซมเป็นแค่เพื่อนค่ะ ฉันไม่เคยมีแฟนเลย ฉันสนใจผู้ชายอยู่แค่คนเดียว แต่เขาไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับฉัน” ฉันพูดด้วยความเศร้าที่ถาโถมเข้ามาเพียงแค่ได้เอ่ยคำนั้นออกมา แต่สายตาของเขากลับมองข้ามความเศร้าของฉันไป
“อย่าให้แซมมาทำให้คุณวอกแวก” เขาพูด “จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างคุณกับผู้ชายคนไหนในบริษัทนี้ เพราะที่นี่มีกฎของบริษัทที่ห้ามพนักงานมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน” เขาพูดโดยไร้ซึ่งอารมณ์
“ฉันเข้าใจค่ะ และคุณไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน” ฉันพูดด้วยความรำคาญใจเล็กน้อย ฉันหันหลังแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป
ฉันฝังตัวเองอยู่กับงานตลอดทั้งวัน ฉันยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่แผดเผามาที่ฉัน แต่ฉันไม่มองไปทางเขาเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้คุยกับฉันเลยทั้งวัน ฉันไม่ได้กินมื้อกลางวันด้วยซ้ำเพราะไม่หิว ฉันแค่เศร้าและหงุดหงิด มาร์คไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด ฉันแค่อยากกลับบ้าน อยากไปขดตัวในชุดนอนพร้อมไอศกรีมถ้วยโต ดูหนัง แล้วก็จมอยู่กับความเศร้า...เพราะฉันจะไม่มีวันได้ครอบครองเขา
