บ้านคนเดียวกับมาร์ค

เกรย์

มาร์คประคองฉันขึ้นบันได เขาโอบฉันไว้ใกล้ตัวจนได้กลิ่นหอมน่าหลงใหลของเขา บ้านทั้งหลังมืดสนิท ยกเว้นโถงทางเดินชั้นบน เขาพาฉันไปยังห้องของฉันแล้วเราก็เข้าไปข้างใน เขาเปิดไฟแล้วพาฉันเดินไปที่เตียง แต่แล้วก็หยุด

เขาเริ่มมองไปรอบๆ ขณะที่ยังโอบฉันอยู่ “อืม ห้องของเธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ” เขาพูดเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน

“ก็เพราะฉันโตแล้วไงคะ” ฉันหัวเราะคิกคัก

“ยืนตรงนี้ก่อนนะ” เขาพูดด้วยสีหน้าผิดหวังแล้วมองหาของไปทั่วห้อง “เสื้อยืดของเธออยู่ไหน” เขาถาม

“ในลิ้นชักค่ะ” ฉันตอบพลางชี้ไปที่ตู้ลิ้นชัก เขาหยิบเสื้อตัวหนึ่งจากตู้ที่ฉันชี้แล้วเดินกลับมาหาฉันพร้อมกับเลียริมฝีปาก

“พี่จะถอดชุดของเธอออกนะ” เขาพูด สบตาฉันราวกับจะยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและฉันสามารถไว้ใจเขาได้

ฉันหัวเราะคิกคักขณะวางมือบนหน้าอกของเขาเพื่อทรงตัว “มาร์ค สเติร์น กำลังจะเปลื้องผ้าให้ฉัน” ฉันพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“เกรย์ ให้พี่ช่วยเถอะนะ นี่ไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้น เธอเมาอยู่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง

“ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบ เขาจับชายกระโปรงของฉัน ปลายนิ้วของเขาสัมผัสเฉียดผิวของฉัน ฉันสูดหายใจเข้าลึกเมื่อใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากฉันเพียงไม่กี่นิ้ว สายตาของเขาจับจ้องมาที่ฉัน เขาค่อยๆ เลิกชุดกระโปรงของฉันขึ้น สิ่งต่อมารู้ตัวอีกทีคือชุดของฉันก็หลุดออกจากตัวไปแล้ว เหลือเพียงบราลูกไม้สีดำกับจีสตริงลูกไม้ และยังสวมรองเท้าส้นสูงอยู่

“เอ่อ...” มาร์คพูด ไม่แน่ใจว่าควรจะมองไปทางไหน แต่เขาก็หันหน้าหนีแล้วหลับตาลง “ต้องให้พี่ปลดตะขอบราให้ด้วยไหม” เขาถาม หวังว่าฉันจะตอบปฏิเสธ ฉันปลดตะขอบราของตัวเองแล้วโยนมันไปบนเตียงข้างหลัง

“เสื้อยืดค่ะ” ฉันบอก

“อ้อ ใช่” เขาพูดพลางหยิบเสื้อยืดจากบนเตียงส่งให้ฉันขณะที่ยังคงมองไปทางอื่น ฉันสวมมัน

“มองได้แล้วค่ะ” ฉันพูด เขาก็ค่อยๆ มองมาทางฉัน แต่สายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่หน้าอกของฉันซึ่งมีเสื้อยืดปิดบังอยู่ ฉันโน้มตัวเข้าไปแล้วประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเขา เขาตัวเกร็ง

ทันทีที่ฉันถอนริมฝีปากออก เขาก็บดขยี้ริมฝีปากของเขากลับลงมาบนปากฉัน มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายฉันราวกับว่ามันมีความคิดเป็นของตัวเอง ฉันรู้สึกมัวเมาไปกับจูบของเขา แอลกอฮอล์ที่ดื่มที่คลับก่อนหน้านี้กลายเป็นน้ำเปล่าไปเลยเมื่อเทียบกับรสจูบของเขา เขา-ดึงฉันเข้าไปใกล้แล้วครางในลำคอก่อนจะถอนริมฝีปากออกไป ฉันลืมตาขึ้น หอบหายใจ ในขณะที่มือของเขาก็ไม่ได้อยู่บนร่างกายของฉันแล้วเช่นกัน ฉันสงสัยอยู่ชั่วครู่ว่าฉันจินตนาการเรื่องทั้งหมดไปเองหรือเปล่า

“บ้าชิบ!” เขาพูดลอดไรฟันพลางเสยผมตัวเองแล้วมองมาที่ฉันอีกครั้ง “ผมขอโทษ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น” เขาพูด

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรสักคำ อีกอย่างฉันก็เป็นคนเริ่มก่อนเอง” ฉันตอบ สายตาของเขาแผดเผาฉันก่อนจะลดลงมองที่เท้าของฉัน

“เอ่อ พี่ต้องถอดรองเท้าให้เธอ” เขาพูด ฉันพยักหน้า เขาประคองฉันลงนั่งบนเตียงแล้วค่อยๆ ถอดรองเท้าให้ฉันอย่างนุ่มนวล ทุกสัมผัสของเขาส่งประกายไฟแล่นไปทั่วร่าง เมื่อรองเท้าถูกถอดออกแล้ว เขาก็ห่มผ้าให้ฉันเหมือนกับที่เคยทำให้ตอนฉันยังเด็ก “เธอต้องนอนได้แล้ว” เขาพูด

ฉันคว้ามือของเขาไว้ขณะที่เขาจะผละออกไป “อยู่ด้วยกันก่อนนะคะ” ฉันพูดด้วยสายตาอ้อนวอน

“โอเค พี่จะอยู่ด้วย” เขาพูด แล้วฉันก็ปล่อยมือเขา เขานำรองเท้าและชุดของฉันไปเก็บไว้ในวอล์กอินโคลเซต ฉันเริ่มจะหลับเปลือกตาของฉันหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ ฉันมองผ่านภาพที่พร่ามัวขณะที่เขาถอดเสื้อผ้า ฉันมองเห็นมัดกล้ามทุกส่วนที่ได้รูปของเขาอย่างชัดเจน เขาเดินมาที่เตียงของฉันในสภาพที่เหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว

เตียงยุบลงตามน้ำหนักตัวของเขาขณะที่เขาปีนขึ้นมานอนข้างๆ ฉัน แล้วฉันก็รู้สึกถึงอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขาที่โอบรอบตัวฉัน ดึงฉันเข้าไปใกล้จนศีรษะของฉันหนุนอยู่บนหน้าอกของเขา เขาจูบที่กลางศีรษะของฉันขณะที่ลูบไล้เส้นผมของฉันเล่น

“พี่ขอโทษที่จูบเธอ” เขาพูด ฉันรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอกของเขา

“ฉันอยากให้พี่ทำ” ฉันพูดขณะหลับตาลงแล้วสูดดมกลิ่นกายของเขา

“มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก และพ่อของเธอจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้” เขาพูดราวกับว่ามันทำให้เขาเจ็บปวด

“ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” ฉันตอบ

“จำไว้ว่า เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก” เขาพูด

“บางทีฉันอาจจะอยากให้มันเกิดขึ้นอีกก็ได้นี่คะ”

“พี่จะไม่อนุญาต” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจกับคำพูดของฉัน “นอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องทำงานทั้งวัน พี่มีประชุมใหญ่อีกแล้ว”

“แล้วพี่ไปทำอะไรที่คลับเหรอคะ” ฉันถามด้วยความอยากรู้

“เพื่อนพี่เป็นเจ้าของคลับน่ะ พี่ทำข้อตกลงบางอย่างกับเขาเพื่อช่วยให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักผ่านทางสเติร์นพอยต์ เขาสมควรได้รับมัน”

“พี่ชอบช่วยคนอื่นนะคะ” ฉันพูด

“ใช่ พี่เป็นแบบนี้มาตลอด” เขาตอบ

“ฉันรักพี่นะคะ” ฉันพูด เขาตัวเกร็งกับคำพูดนั้น “ฉันรักพี่มาตลอด”

“พี่ก็รักเธอ เกรย์” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจ

ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันมักจะบอกรักเขา และเขาก็จะตอบกลับมาว่าเขาก็รักฉันเหมือนกัน แล้วตามด้วยชื่อฉัน เกรย์ เหมือนกับตอนนี้เลย มันเหมือนฝันที่เราจูบกัน และฉันรู้ว่าเขาก็ต้องการมันเหมือนกันเพราะจูบนั้นมันไม่ใช่แค่จูบเปล่าๆ มันมีความหมายซ่อนอยู่ ฉันเดาว่าเขากลัวพ่อของฉันจะรู้ และยังมีนโยบายห้ามพนักงานคบหากันในบริษัทอีก อาจจะเป็นทั้งสองอย่าง แต่ฉันต้องการเขา และฉันรู้ว่าเขาก็ต้องการฉันเหมือนกัน เขายังคงลูบผมฉันเล่น และฉันได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ข้างหู ฉันรู้สึกว่าความมืดเริ่มครอบงำ แต่ฉันพยายามฝืนตัวเองให้ตื่นเพื่อเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ไว้ แต่ยิ่งฉันพยายามมากเท่าไหร่ ความง่วงก็ยิ่งจู่โจมฉันมากเท่านั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป