บทนำ
เบธานี
คืนเดียวเท่านั้น นั่นคือทั้งหมดที่มันควรจะเป็น
ค่ำคืนเดียวบนเตียงของอัลฟ่าเดเมียน ชายผู้ที่น้ำเสียงทุกคำคือคำบัญชา สายตาที่ราวกับจะเปลื้องเปลือยฉันจนล่อนจ้อน และสัมผัสที่ทำให้ฉันปวดปรารถนาในส่วนลึกที่ฉันไม่เคยรู้ว่ามันจะร้อนรุ่มได้ถึงเพียงนี้
ฉันขายความบริสุทธิ์ของตัวเองให้เขาเพื่อช่วยชีวิตน้องสาว ฉันคิดว่าเรื่องมันจะจบลงแค่นั้น
ฉันคิดผิด
แต่ตอนนี้ ชายคนที่ทำให้ฉันต้องอ้อนวอน ชายผู้บงการว่าฉันจะสุขสมได้เมื่อไหร่และไม่ได้เมื่อไหร่ กลับกลายเป็นคนเดียวกับที่ฉันถูกผูกมัดให้ต้องแต่งงานด้วย กฎของเขานั้นเรียบง่าย... ร่างกายของฉันเป็นของเขาให้เขาใช้ได้ตามใจ ความสุขสมของฉันขึ้นอยู่กับการควบคุมของเขา และการยอมจำนนของฉัน... ไม่ใช่ทางเลือก
ฉันควรจะเกลียดที่ตกเป็นของเขาแบบนี้
แต่ฉันไม่เกลียดเลย
โลกของเบธานีพังทลายลงในชั่วข้ามคืน เมื่อน้องสาวของเธอกำลังจะตายและค่ารักษาพยาบาลก็พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนที่เธอไว้ใจกลับหักหลังเธอ แม่เลี้ยงของเธอปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ ส่วนแฟนหนุ่มก็ทรยศเธอไปมีสัมพันธ์กับลูกติดของแม่เลี้ยง ด้วยความสิ้นหวังและต้องการเงิน เธอจึงทำข้อตกลงที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไปตลอดกาล นั่นคือการใช้เวลาหนึ่งคืนกับอัลฟ่าเดเมียนผู้ลึกลับ
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้เบธานีต้องแต่งงานตามสัญญากับชายแปลกหน้า เธอก็ได้ค้นพบว่าสามีคนใหม่ของเธอคือชายคนเดียวกับที่เธอได้มอบความบริสุทธิ์ให้
บท 1
มุมมองของเบธานี
“เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราให้ยาทั้งหมดเท่าที่เงินมัดจำของคุณจะซื้อได้แล้ว แต่มันยังไม่พอที่เราจะเริ่มการรักษาได้” คุณหมอพูด พยายามทำเสียงให้ดูเสียใจ แต่ฉันกลับนั่งสงสัยว่าคนพวกนี้ใจดำอำมหิตได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ฉันทำงานหนักแทบตายมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา ถึงขั้นต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อจะทำงานพาร์ทไทม์หลายๆ ที่ได้ เพียงเพื่อหาเงินมาเป็นค่ารักษาให้เธอ
ค่ารักษาพยาบาลสูงถึงสองล้านดอลลาร์ มันเป็นโรคที่หายากมาก เกิดขึ้นเพียงสามในล้านคนบนโลก และโชคร้ายที่น้องสาวของฉันคือหนึ่งในเหยื่อของโรคร้ายกาจนี้
หลายเดือนแล้วที่ฉันยังรวบรวมเงินได้ไม่ถึงหนึ่งล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ และไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาก็ไม่ยอมเริ่มการรักษาอย่างเป็นทางการให้เธอ เงินของฉันกลับถูกใช้เป็นค่าอาหารกับค่าจ้างพยาบาลกะดึกที่ดูแลเธอตั้งแต่กลางคืนจนรุ่งเช้า
“แต่คุณหมอก็รู้ว่าหนูทำงานหนักแค่ไหนเพื่อเธอมาจนถึงตอนนี้ หนูตัวคนเดียวนะคะ เธอเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของหนูและ…” ฉันกลั้นน้ำตาที่เริ่มไหลอาบแก้มไว้ไม่ไหว “หนูเสียเธอไปไม่ได้ ยิ่งเมื่อหนูทุ่มเทเพื่อเธอมามากขนาดนี้ หนูรักน้อง และ…”
“เราเข้าใจสถานการณ์ของคุณนะ เบธานี แต่นี่เป็นเพียงแนวปฏิบัติของโรงพยาบาลที่เราต้องทำตาม เราไม่สามารถเริ่มการรักษาอย่างเป็นทางการกับคนไข้ได้จนกว่าค่ารักษาพยาบาลจะได้รับการชำระครบถ้วน”
“แต่เธออาจจะตายก่อนได้นะคะ” ฉันลุกขึ้นยืน ทุบมือลงบนโต๊ะ ฉันเริ่มกระวนกระวาย แค่คิดว่ากว่าจะหาเงินมาได้ครบก็อาจจะต้องกลับมาพบเพียงร่างไร้วิญญาณของน้องสาว “หนูสัญญาว่าจะหาเงินมาให้ได้ แต่ตอนนี้เธอนอนอยู่บนนั้น มีชีวิตอยู่ได้ด้วยอาหารกับยาเพียงน้อยนิด”
“งั้นก็ไปทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาให้ได้ก่อนจะหมดเวลา ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้อีกแล้ว คุณเบธานี ขอให้เป็นวันที่ดี” คุณหมอที่เบื่อหน่ายกับการโวยวายของฉันเต็มทีเอ่ยเสียงเย็นชา และเมื่อน้ำตาสายใหม่เอ่อคลอขึ้นมาในดวงตา ฉันก็ลุกขึ้น คว้ากระเป๋าสะพายเก่าๆ ของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องทำงาน ก่อนจะกระแทกประตูปิดตามหลัง
โถงทางเดินของโรงพยาบาลฝูงนั้นเงียบสงบ ดังนั้นเมื่อฉันก้าวออกมาหลังจากกระแทกประตู ฉันจึงได้รับความสนใจจากทุกทิศทาง ส่วนใหญ่เป็นพยาบาล ซึ่งหลายคนรู้จักฉันดีเพราะฉันมาโรงพยาบาลนี้บ่อยครั้งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
พวกเขามองมาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ แต่ ณ จุดนี้ฉันไม่สนใจอีกต่อไป ไม่แม้แต่จะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าขณะจัดกระเป๋าบนไหล่ให้เข้าที่แล้วเดินจากไป
เมื่อออกมาถึงข้างนอก ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจโทรหาพวกเขา เสียงรถบีบแตรดังลั่น พร้อมกับเสียงผิวปากแซวและตะโกนโหวกเหวกดังผ่านหูไปขณะที่ฉันข้ามถนนอย่างเลื่อนลอย
นิ้วโป้งที่สั่นเทาของฉันเลื่อนผ่านชื่อ ‘แม่เลี้ยงจอยซ์’ ก่อนที่ฉันจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรออก
ขณะที่เสียงสัญญาณดังขึ้น ฉันก็กัดริมฝีปากอย่างประหม่า แม่เลี้ยงกับลูกติดของเธอ วิเวียน ไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวที่จะไล่ฉันกับน้องสาวออกจากบ้านโดยมีแค่เสื้อผ้าติดตัวในทันทีที่พ่อของเราเสียชีวิต
เราไม่เคยมีโอกาสได้ต่อสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเอง หรือแม้แต่จะเรียกร้องส่วนแบ่งในทรัพย์สินจากพินัยกรรมของพ่อผู้ล่วงลับ เพราะมันชัดเจนว่าถึงแม้เราจะหาทนายมาได้ ฉันก็ไม่มีเงินพอที่จะฟ้องร้องพวกเขาขึ้นศาล
ฉันจึงย้ายไปอยู่กับโจเอล แฟนของฉัน เขารับเราสองคนพี่น้องเข้ามาอยู่และดูแลเราอย่างดีจนกระทั่งฉันหางานทำได้ควบคู่ไปกับการเรียนในวิทยาลัยชื่อดังด้วยทุนการศึกษา ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แม้บางครั้งมันจะแย่ถึงขนาดที่เราได้กินข้าวแค่วันละมื้อเพื่อให้น้องสาวตัวน้อยของฉัน แอนนาเบล ได้กินอิ่ม แต่มันก็ยังดีกว่าเพราะเรามีความสุข และนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญ
โจเอลกับฉันรักกันมากจนเขาไม่สนใจว่าเราไม่ใช่คู่แท้กัน เขารักฉันที่ฉันเป็นฉัน และกำลังวางแผนที่จะขอฉันแต่งงานอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ แม้แต่ฉันเองก็รู้ว่าโจเอลไม่ใช่คู่แท้ที่แท้จริงของฉัน แต่หมาป่าในตัวฉัน ฮันนาห์ กลับยอมรับเขาอย่างสุดหัวใจ มากกว่าผู้ชายคนไหนๆ ที่ฉันเคยเจอ
ทว่าโศกนาฏกรรมก็บังเกิด น้องสาวของฉันในวัยเพียงเก้าขวบต้องต่อสู้กับโรคร้ายกาจที่คุกคามจะพรากเธอไปจากฉัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทุกอย่างเริ่มพังทลายลง
ทันทีที่เธอรับสาย ฉันก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อได้ยินเสียงของเธอ
“ฮัลโหล…”
เธอคือความหวังสุดท้ายของฉัน ฉันไม่มีใครอื่นให้หันไปพึ่งพาอีกแล้ว โจเอลช่วยมามากพอแล้ว และฉันไม่สามารถรบกวนเขาได้อีก
“ฮัลโหล นี่ใคร ถ้าไม่พูดอะไรฉันจะวางแล้วนะ”
“คุณแม่เลี้ยงจอยซ์คะ นี่หนูเอง เบธานี”
ฉันคาดว่าเธอจะประหลาดใจอยู่บ้างที่ฉันโทรหาหลังจากผ่านมาสามปี เพราะไม่มีใครในพวกเขาเคยคิดจะติดต่อมาดูเลย แต่คำพูดถัดมาของเธอกลับเย็นชาและเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
“เหรอ แล้วมีธุระอะไรล่ะ”
ฉันรู้สึกท้อใจจนไม่อยากจะขออะไร แต่ฉันต้องทำ ทุกอย่างที่ฉันทำก็เพื่อน้องสาวของฉัน
“แอนนาเบล…” ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร น้ำตาก็ทะลักออกมาอีกระลอกและเริ่มไหลอาบแก้ม “น้องป่วยหนักมากมาหกเดือนแล้วค่ะ แล้วค่ารักษาก็ยังจ่ายไม่ครบ…พวกเขาบอกว่า…”
“ฉันไม่มีเงิน ถ้าโทรมาเรื่องนั้นก็ลืมไปได้เลย เพราะเธอจะไม่ได้จากฉันไปแม้แต่สลึงเดียว”
“ได้โปรดเถอะ ฉัน...”
แล้วปลายสายก็ตัดไปทันที ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางถนน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนไปด้วยน้ำตาขณะจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่อยากจะเชื่อ
ความหวังทั้งหมดมันหมดสิ้นแล้วจริง ๆ เหรอ
ฉันช่วยแอนนาเบลไม่สำเร็จจริง ๆ น่ะเหรอ
แต่ฉันสัญญากับน้องแล้วนี่นา ฉันสัญญาว่าน้องจะได้ออกจากโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย
ฉันสังเกตเห็นว่าผู้คนเริ่มมองมาทางฉัน ฉันเลยตัดสินใจเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
ว่าแล้วก็ไม่ได้กลับบ้านมาพักใหญ่แล้ว ฉันเคยแชร์อพาร์ตเมนต์อยู่กับเพื่อนที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล จะได้ทำงานสะดวกแล้วก็ไปเยี่ยมน้องสาวได้ง่าย ๆ
แต่ในวันนี้ ฉันอยากกลับบ้าน ฉันต้องการโจเอล ฉันอยากรู้สึกถึงอ้อมกอดของเขา ความอบอุ่นของเขา จูบที่แสนอ่อนโยน สัมผัสของเขา ความรู้สึกที่หัวใจพองโตทุกครั้งที่สายตาเราประสานกัน
ฉันโทรหาเขาเป็นครั้งที่ร้อยนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ แต่เขาก็ไม่รับสายเหมือนเคย ฉันสงสัยว่าเขาบล็อกเบอร์ฉันไปแล้วหรือเปล่า เพราะมันผิดปกติมากที่เขาจะไม่ได้รับสายฉัน แล้วนี่ก็ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วด้วย
ทันทีที่จ่ายเงินค่าแท็กซี่ ฉันก็เดินตรงไปยังตึกที่คุ้นเคย ฉันเคาะประตูอยู่นานกว่าห้านาที พลางสงสัยว่าทำไมเขายังไม่มาเปิด มอเตอร์ไซค์ของเขาก็จอดอยู่ในโรงรถ แล้วปกติเขาไม่ไปไหนโดยไม่มีมัน
ความกังวลของฉันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อฉันก้มลงหาลูกกุญแจสำรองใต้พรมเช็ดเท้า โชคดีที่มันยังอยู่ที่เดิม ฉันรีบไขประตูเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
“โจเอล... ฉันกลับมาแล้ว” ฉันเอ่ยเรียก ก่อนที่สายตาจะจับจ้องไปยังภาพความรกรุงรังในห้องนั่งเล่น ทีวีถูกเปิดทิ้งไว้ซึ่งก็แปลกดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันตัวแข็งทื่อ มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วตั้งแต่บนโซฟาจนถึงพื้น
ฉันจำเสื้อเชิ้ตตัวนั้นได้ เป็นตัวที่ฉันซื้อให้โจเอลเมื่อคริสต์มาสที่แล้ว ขณะที่เดินเข้าไปข้างหน้า หรี่ตามองเสื้อผ้าชิ้นอื่นที่ไม่คุ้นตา ฉันก็เกือบจะสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง และเมื่อก้มลงมอง หัวใจของฉันก็พลันแข็งค้างด้วยความตกใจ
มันคือรองเท้าส้นสูง รองเท้าส้นเข็มสีชมพูแปร๋น
และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะใส่รองเท้าแบบนี้
ผู้หญิง
ฉันโยนกระเป๋าทิ้งโดยไม่ทันได้คิดแล้ววิ่งพรวดขึ้นไปชั้นบน เหวี่ยงประตูให้เปิดออกอย่างแรง
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งคู่อยู่บนเตียง ฉันก็ตัวแข็งทื่อ ถอยหลังกรูด เอามือปิดปาก นิ้วสั่นเทาขณะที่น้ำตาร่วงเผาะลงมาอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่
โจเอลนอนเปลือยกายโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขน หลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่ม ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากวิเวียน น้องสาวต่างสายเลือดของฉัน
ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวสวาท ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเพิ่งมีอะไรกันและคงหลับลึกไปได้สักพักแล้ว เพราะไม่มีใครได้ยินเสียงฉันตอนที่เดินเข้ามาเลย
ฉันใจสลาย แหลกสลายจนไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากร้องไห้ หมาป่าในตัวฉันเจ็บปวดรวดร้าวกับภาพที่เห็น มันยิ่งขยายความเจ็บปวดที่ถาโถมอยู่ในใจ และขู่ว่าจะฉีกกระชากมันออกเป็นชิ้น ๆ จนกระทั่งโจเอลตื่นขึ้นมานั่นแหละเขาถึงได้สังเกตเห็นฉัน ฉันคาดหวังว่าจะได้เห็นแววสำนึกผิดบนใบหน้าของเขาบ้าง แต่เขากลับมีสีหน้ารำคาญใจขณะลุกขึ้นนั่ง
เขาสวมกางเกงในอย่างลวก ๆ แล้วลากฉันออกจากห้องก่อนจะปิดประตูใส่หน้าเรา
“ทำบ้าอะไรของเธอ อยากจะปลุกหล่อนหรือไง”
ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ฉันนึกว่าเขาพูดเล่นก็เลยหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะขมขื่นผุดขึ้นบนใบหน้า รอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาอันว่างเปล่าไร้วิญญาณของฉัน “ปลุกหล่อนเหรอ? นี่คือเรื่องที่เธอกังวลอยู่ตอนนี้จริง ๆ เหรอ? ว่าหล่อนจะตื่น? นี่เธอคบกับใครอยู่กันแน่ โจเอล”
“ก็เธอ แต่...”
“แล้วในบรรดาผู้หญิงทั้งหมด ต้องเป็นน้องสาวฉันด้วยเหรอ ฉันนึกว่าความสัมพันธ์ของเรามันเป็นเรื่องจริง ฉันนึกว่าเธอรักฉัน ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง” ฉันไม่อยากจะร้องไห้ โดยเฉพาะเมื่อเขาดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย แต่แล้วน้ำตาก็ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย ปล่อยให้ฉันยืนเจ็บปวดอยู่ตรงนั้น
หัวใจของฉันเจ็บปวดเหลือแสน และเสียงหอนโหยหวนของแฮนนาห์ที่ดังอยู่ลึก ๆ ในจิตวิญญาณก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
“วิเวียนคือเมทของฉัน”
คำพูดของเขาทำให้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมดของฉันพังทลายลง ฉันถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะทรุดตัวลงกับกำแพง นั่งร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเจ็บปวด
“แล้วยังไง? เธอก็รู้ว่าเราผ่านอะไรกันมาบ้าง แต่เธอก็ยังจะเลือกหล่อนแทนที่จะเป็นฉันงั้นเหรอ”
“ใช่ เพราะฉันเบื่อแล้ว เบธานี ฉันเบื่อไอ้ความสัมพันธ์ห่วย ๆ ของเรานี่เต็มทนแล้ว ใครจะไปรู้ว่าที่เธอกลับมาบ้านครั้งนี้ก็เพื่อจะมาขอเงินเพิ่มอีกหรือเปล่า เธอไม่เคยสนใจฉันอีกต่อไปแล้ว มีแต่น้องสาวของเธอตลอดเวลา ฉันเอือมระอากับมันมานานแล้ว”
“เหอะ โทษทีแล้วกันที่ฉันเป็นห่วงครอบครัวคนเดียวที่ฉันมีอยู่ เธอไม่รู้หรือไงว่าน้องต้องต่อสู้กับปีศาจร้ายอะไรบ้างบนเตียงคนไข้คนเดียว แล้วน้องก็เพิ่งจะแปดขวบเองนะ!”
“งั้นฉันก็จะปลดปล่อยเธอจากฉันไปซะ จะได้ไปดูแลน้องสาวของเธอได้เต็มที่ ฉันอยากให้เธอไปซะ แล้วก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” แววตารังเกียจและไม่พอใจฉายชัดขณะที่เขากวาดตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า มันส่งความรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วสันหลัง ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะได้เห็นแววตาแบบนั้นจากเขา
แววตาของเขาดูเกลียดชังเหลือเกิน
“เดี๋ยวนี้เธอแทบไม่ดูแลตัวเองเลยด้วยซ้ำ ดูสิ โทรม ซูบซีด แล้วก็น่าเกลียด ไม่มีผู้ชายสติดีคนไหนเขาอยากจะยุ่งกับเธอหรอก”
ฉันพูดอะไรไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาขณะที่เขาเอ่ยคำพูดสุดท้าย
“ข้า, โจเอล อดัมส์ ขอปฏิเสธเจ้า, เบธานี วิลเลียมส์ ในฐานะเมทของข้า”
บทล่าสุด
#135 135
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#134 134
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#133 133
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#132 132
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#131 131
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#130 130
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#129 129
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#128 128
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#127 127
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025#126 126
อัปเดตล่าสุด: 11/6/2025
คุณอาจชอบ 😍
BAD MAFIA คาสโนวาหลงเด็ก
"จะจูบกันได้ต้องเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?" คำถามไร้เดียงสาของสายฟ้า สร้างเสียงหัวเราะให้มนัส เขาบีบปลายคางมนเบาๆอย่างนึกเอ็นดูกับคำถามที่เธอถามเขา
"งั้นคนที่จูบกับก็ต้องเป็นแฟนกันหมดสิคะ?" มนัสเท้าเอวถาม ก่อนจะหมุนตัวเดินมาที่รถยนต์หรูที่จอดอยู่ลานจอดรถข้างผับ ทว่าเสียงของเด็กสาวทำให้เขาต้องหยุดชะงัก แล้วค่อยๆหันกลับมาเลิกคิ้วให้เธอ
เจ้าสาวตัวแทนของราชาอัลฟ่า
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้เมื่อฉันนอนอยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งของราชาอัลฟ่า เขากดตัวลงมาหนักหน่วง น้ำตาเปื้อนใบหน้าของฉันและเขามองไปรอบๆ ใบหน้าของฉันด้วยความสงสัย เขาหยุดนิ่งไปนาน หายใจหอบและตัวสั่น
เมื่อครู่เขาฉีกชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษของฉันออกจากร่างกายผอมบางของฉันและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเขากดฉันลงบนเตียงของเขา จูบทุกจุดบนร่างกายของฉันและกัดจนฉันเลือดออก
สายตาสีฟ้าเข้มของเขาดูดุร้ายและในขณะนั้นฉันกลัวชีวิตของฉันจริงๆ ฉันกลัวว่าคืนวันแต่งงานของฉันจะเป็นจุดจบของชีวิตฉันทั้งหมด
ความทรงจำของวันนั้นเข้ามาในใจฉันขณะที่ฉันคิดกับตัวเองว่า "ฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?"
เพื่อช่วยน้องชายของเธอ ฮันนาห์ถูกบังคับให้แทนที่เอมี่ พี่สาวต่างแม่ของเธอในงานแต่งงานที่จัดขึ้น ต้องแต่งงานกับราชาอัลฟ่าผู้โหดร้าย ปีเตอร์ เธอไม่รู้เลยว่ามีอันตรายมากมายรอเธออยู่
อัลฟ่าปีเตอร์ ชายที่หยิ่งยโส เย็นชา และแข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมาป่า เขายอมรับการแต่งงานนี้เพราะเขาต้องการหาคู่แท้ของเขา ตามคำทำนาย มีเพียงคู่แท้ของเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาจากความโกรธบ้าคลั่งได้ เขาไม่รู้เลยว่าในไม่ช้าเขาจะพบว่าตัวเองตกหลุมรักกับเด็กสาวโอเมก้าคนนี้
ค่ำคืนแห่งความลับ
"คิดว่าจะไปไหนเหรอ?"
"ตรงนั้น" ฉันตอบเสียงสั่นๆ พร้อมพยักหน้าไปทางเก้าอี้
เขาจ้องมองฉันด้วยสายตาที่เข้มข้นจนทำให้ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และเขาก้มลงมาจูบฉันด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ฉันครางเบาๆ และกำเสื้อยืดของเขา จูบตอบกลับไป คอนราดลูบหลังฉันและวางมือที่เอวเพื่อดึงตัวฉันให้แนบชิดกับเขามากขึ้นขณะที่เราจูบกัน ฉันโอบแขนรอบคอเขา
ส่วนหนึ่งของฉันโหยหาจูบของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้จูบกัน จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลแต่ไม่รุนแรงหรือหยาบคาย มันสมบูรณ์แบบมาก คอนราดใช้มืออีกข้างลูบแก้มฉัน ฉันดันลิ้นเข้าไปในปากเขา ฉันต้องการมากกว่านี้ คอนราดดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะลิ้นของเขาเต้นรำเข้ากันได้อย่างลงตัวกับของฉัน
ฉันเดินถอยหลังโดยไม่แยกจากริมฝีปากของเขาจนหลังชนกับเคาน์เตอร์ มีอารมณ์มากมายหมุนเวียนในตัวฉัน ฉันจับสะโพกเขาและดึงเขาเข้ามาใกล้ คอนราดครางเสียงดังในริมฝีปากของฉัน และฉันรู้สึกได้ว่าเขาแข็งตัวขึ้นเพียงแค่จูบฉัน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นครั้งแรกในรอบนาน
คืนหนึ่ง
งานบอลหน้ากาก
ชายหนุ่มรูปหล่อ
มันคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด เพราะฉันถูกบังคับให้เข้าร่วมงานโดยเจ้านายของฉันเพื่อแกล้งเป็นลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออก
สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อตกลงมาที่ฉันทันทีที่ฉันเดินเข้าไป ฉันหวังว่าเขาจะมองข้ามไปเพราะเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้หญิงสวยๆ แต่เขาไม่ทำ เมื่อเขาตัดสินใจเข้ามาหา ฉันถึงได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเลย เขาและครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ เขาไม่ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงเขา แต่ไม่มีอะไรได้ผล มันยากที่จะต้านทานเมื่อเขาจ้องมองฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ฉันยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับมัน การใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงกับเขาคงไม่เป็นไรใช่ไหม? ตราบใดที่ฉันยังสวมหน้ากาก เขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร
ฉันไม่เคยรู้สึกเคมีแบบนี้กับใครมาก่อน แต่มันไม่สำคัญเพราะหลังจากคืนนี้ ฉันจะหายไปและเขาจะไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเดินผ่านฉันบนถนน เขาก็จะไม่สังเกตเห็นเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงที่เขาหลงใหล คนสวยที่เข้ากับคนอื่นได้ แต่ในความเป็นจริงฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันไม่มีอะไรพิเศษ ดังนั้นเวลาที่เราใช้ร่วมกันจะเป็นเพียงความทรงจำ
แต่ฉันคิดผิด เพราะเพียงคืนเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฉันหวังว่าเขาจะลืมฉันไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำ
ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรรู้ความจริง เพราะเขาจะผิดหวังเท่านั้น
อัลฟ่าผู้ชั่วร้าย
"ฉันอธิบายได้นะ-"
เขาตัดบทฉัน
"เธอเป็นแมวน้อยที่แย่มาก เธอไม่รู้เลยว่าฉันต้องผ่านอะไรมาบ้าง"
มือของเขาบีบคอฉันแน่นจนฉันหายใจไม่ออก
"ถอดเสื้อผ้า"
คำนี้ทำให้ฉันตื่นจากความช็อก "อะ-"
"ฉันจะนับถึง 3 ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะฉีกเสื้อผ้าเธอออก - 1"
นี่มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ
"2"
ฉันคิดว่าเขาเป็นเกย์
"3"
เอมาร่า หญิงสาวอายุ 21 ปี ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหางานในบริษัทข้ามชาติ
แต่เธอไม่รู้เลยว่า...
เจ้านายของเธอหล่อมาก
เขาไม่ใช่มนุษย์
เธอคือคู่ชีวิตของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมาป่าตัวใหญ่เจอคู่ชีวิตของเขา?
เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อรู้ว่าคู่ชีวิตของเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง?
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผย? ใครจะจม? ใครจะรอด?
มีภาคต่อในหนังสือเล่มนี้!
6 เรื่องสั้น ที่เต็มไปด้วยเส้นทางของรักและจูบ
คำเตือน! รวมเรื่องสั้นเป็นเรื่องราวหมวดผู้ใหญ่ มีเนื้อหาบรรยายเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศเป็นส่วนใหญ่
คุณอาข้างบ้าน
นิยายร้อนแรงที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นเร่าทุกอณู!!!
อยากลองก็ได้ลอง!
ดอกอ้อ สาวหน้าประถมนมมหาลัย
อยากรู้อยากลองว่าลีลารักของ คุณอาข้างบ้าน ถึงใจแค่ไหน
คุณอาหนุ่ม คมคาย เลยต้องจัดให้
แซ่บถึงใจเลยเชียวล่ะ แม่คุณเอ๋ย
Secret Love Friend แอบรักเพื่อน
"ผมไม่คิดว่าจะได้มาเจอคนที่น่าสนใจแบบคุณที่นี่"
"ผมแค่มาพักผ่อนกายใจเฉยๆ " อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยกยิ้มรับ ขยับกายเข้ามาใกล้ ฝ่ามือเอื้อมไปวางที่ต้นขา ลูบไล้ไปมาเบาๆ จนทำให้คนที่นั่งอยู่แทบจะอดใจไม่ไหว ถอนหายใจออกมาแรงๆ และพยายามหันมองรอบๆ ตัว เพื่อหักห้ามใจไม่ให้ตะบันหน้าคนที่กำลังนั่งแนบชิด แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ
"เหี้ย!!! "
ร้ายรักอันธพาล
"มาช้านะคนสวย" ปรินเอ่ยแซว เขาส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยและมองหน้าอกที่ขยายใหญ่กว่าปกติก็อดถามไม่ได้ แค่ริมฝีปากเขาเผลอขึ้นโดยไม่ทันได้ออกเสียงกาเนสก็พูดขึ้นเสียก่อน
"ฉันไปทำนมมาใหม่แล้ว เลิกล้อว่านมแบนได้แล้วนะ" กาเนสนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโอโซนพร้อมกับแอ่นหน้าอกขึ้นเล็กน้อย อวดเต้ากลมกลึงขนาดพอดีมือทรงหยดน้ำที่ถูกเกาะอกดันทรงขึ้นจนเห็นร่องอกเบียดแน่น
"ให้กูบีบดูหน่อย มันเหมือนของจริงไหม" ไม่ทันที่กาเนสจะให้อนุญาต โอโซนก็ยื่นมือมาบีบเคล้นหน้าอกเธอเบา ๆ ต่อหน้าเพื่อนผู้ชายอีกห้าคนรวมถึงแป้งปั้นที่นั่งอยู่บนหน้าตักบดินทร์ด้วย
"เป็นไง เหมือนนมแม่มึงไหมคะ" เธอจิ๊ปากถามอย่างเอาเรื่อง
"ไม่เหมือน ถ้าให้เหมือนกูต้องได้ดูด"
ทัณฑ์เสน่หามาเฟีย
คือการตัดสินใจพลาดผิดครั้งใหญ่ของ มัสมิน สาวสวยแสนอ่อนหวาน
ผู้ต้องรับโทษทัณฑ์สาหัสจาก ลอวเรนซ์ มาร์โค ริคาร์ดิอาโด
มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทย ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน
ทายาทเจ้าของอาณาจักรธุรกิจการบินยักษ์ใหญ่ของอิตาลี
ผู้เก็บความเคียดแค้นเพื่อรอเวลา กลับมาให้เธอ ชดใช้
ไม่มีสัมผัสอันน่าหลงใหล โลกของเธอแล้งไร้ซึ่งความฉ่ำชื่น หญิงสาวแห้งผากราวโตรกธารเหือดหายซึ่งสายน้ำ เขาเหยียบย่ำ ทำให้เธอสั่นสะท้านและรู้สึกถึงการปริแยกจนมัสมินภาวนาให้อวสานแห่งราตรีกาลล่วงผ่านมาโดยไว
“ริค! นุ่นเจ็บเหลือเกินค่ะ...นุ่นทรมานเหลือเกิน”
เปลือกตาคู่สวยปิดลงเพื่อขับหยาดน้ำหยดแล้วหยดเล่าร่นไหลลงไปตามขมับบาง มือเรียวที่แปะป่ายตามลำตัวของเขาไล้ขึ้นไปหยุดบนใบหน้าคร้ามคมสากระคายด้วยไรขนเคราสั้น ๆ ซึ่งทิ่มแทงบาดผิวทุกครั้งที่เขาฝังมันลงบนเนื้อตัวสีชมพู ลอวเรนซ์เลื่อนคลายการกอดรัดแต่ร่างนั้นก็ยังขยับความแข็งแกร่งเข้าออกในหลืบลึกของกายสาว ความสุขที่ปนมากับความทุกข์หลากล้นท้นหัวใจ หากก็ทำได้เพียงจำนนต่อกำแพงทิฐิซึ่งข้ามไปได้ยากเย็น
Not Love | ไม่รัก(อย่ากั๊ก!!)
นั่นคือประโยคที่มันย้ำเตือนให้ฉันเจียมตัวแล้วต้องเลิกรักผู้ชายเย็นชาอย่างพี่เรย์
ในเมื่อเขาบอกกับฉันอย่างชัดเจนขนาดนั้น ฉันคงไม่โง่รักเขาต่อ....
พันธะสัมพันธ์ร้าย
โครงการนักโทษ
ความรักจะสยบคนเถื่อนที่มิอาจแตะต้องได้หรือไม่? หรือมันจะเป็นเพียงเชื้อไฟที่โหมกระพือให้เกิดความโกลาหลในหมู่นักโทษ?
มาร์โกต์เพิ่งเรียนจบมัธยมปลายและรู้สึกอึดอัดราวกับจะขาดอากาศหายใจในเมืองบ้านเกิดที่ไร้ซึ่งอนาคต เธอปรารถนาที่จะหนีไปให้พ้นจากที่นี่ คาร่า เพื่อนสนิทผู้บ้าบิ่นของเธอ คิดว่าตนได้พบหนทางหนีที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งคู่แล้ว นั่นคือ ‘เดอะ พริซันเนอร์ โปรเจกต์’ โครงการที่เป็นที่ถกเถียงซึ่งมอบเงินก้อนโตที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ เพื่อแลกกับการใช้เวลาร่วมกับนักโทษความปลอดภัยสูงสุด
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย คาร่ารีบไปลงชื่อสมัครให้พวกเธอทั้งคู่
รางวัลของพวกเธอน่ะหรือ? ก็คือตั๋วเที่ยวเดียวสู่ส่วนลึกของเรือนจำที่ปกครองโดยหัวหน้าแก๊ง เจ้าพ่อมาเฟีย และเหล่าบุรุษที่แม้แต่ผู้คุมก็ยังไม่กล้าต่อกร...
ณ ใจกลางของทั้งหมดนั้น เธอได้พบกับ โคแบน ซานโตเรลลี... ชายผู้เย็นชากว่าน้ำแข็ง มืดมนยิ่งกว่ารัตติกาล และอันตรายร้ายแรงดุจเปลวเพลิงที่โหมกระพือความกราดเกรี้ยวในใจ เขารู้ดีว่าโครงการนี้อาจเป็นตั๋วใบเดียวสู่อิสรภาพของเขา... ตั๋วใบเดียวที่จะนำไปสู่การแก้แค้นคนที่จับเขามาขังไว้ และดังนั้น เขาจึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเขาสามารถเรียนรู้ที่จะรัก...
มาร์โกต์จะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับเลือกให้มาช่วยดัดนิสัยเขาหรือไม่?
โคแบนจะสามารถมอบอะไรให้ได้บ้าง... นอกเหนือไปจากแค่เรื่องบนเตียง?
สิ่งที่เริ่มต้นจากการปฏิเสธ... อาจเติบโตกลายเป็นความหลงใหล... ซึ่งอาจค่อยๆ บ่มเพาะจนกลายเป็นรักแท้ในที่สุด...
นิยายรักอารมณ์ร้าย













